posttoday

อัยการเลื่อนสั่งคดีแฟลชม็อบ "ธนาธร-พวก" หลังตร.ยังไม่ส่งผลสอบเพิ่ม

17 มีนาคม 2563

อัยการปทุมวัน เลื่อนสั่งคดี “ธนาธร-พวก” แฟลชม็อบสกายวอล์ค รอบแรก"ทนาย" เผยตำรวจยังไม่ส่งผลสอบเพิ่มกลับมา หลังผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมอัยการสอบพยานเพิ่ม

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 63 พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน สรุปสำนวนกล่าวหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) , นายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 5 นครปฐม , นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษาและนักกิจกรรมทางการเมือง , นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือบอล แกนนำวิ่งไล่ลุง และ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ผู้ต้องหารวม 5 คน คดีร่วมกันชุมนุมแฟลชม็อบ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 ที่สกายวอล์ก ปทุมวัน โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558

ซึ่งแจ้งข้อหาฐานร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง , ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ , ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแล และรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ , ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

โดยวันนี้ นายวรวิทย์ นิติบริรักษ์ ทีมทนายความได้รับมอบอำนาจจากผู้ต้องหา เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลแขวง 6

ภายหลังนายวรวิทย์ ทนายความ ให้สัมภาษณ์ว่า พนักงานอัยการขอเลื่อนนัดการสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 23 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการ ซึ่งอัยการมีคำสั่งพร้อมส่งประเด็นให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา โดยขณะนี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งนัดวันที่ 23 เม.ย.นี้ ก็ต้องรอดูว่าพนักงานสอบสวน จะทำการสอบสวนเพิ่มเติมประเด็นต่างๆ เสร็จสิ้นแล้วหรือไม่

ส่วนที่ว่าการส่งสำนวนของตำรวจ รวบรัดเร็วเกินไปหรือไม่ ขอให้ประชาชนที่ได้ติดตามข่าวเป็นผู้พิจารณาเองว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเช่นไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประเด็นที่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมให้อัยการพิจารณามี 3 ประเด็นหลัก คือ

1.การรวมตัวดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามคำนิยามชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 การไปพบปะดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องแจ้งหรือขออนุญาตเจ้าพนักงานตามกฎหมาย และเป็นการพบปะนั้นเทียบได้กับการที่นายกรัฐมนตรีไปพบกับประชาชนในที่ต่างๆ

2.พ.ร.บ.ชุมนุมฯ กำหนดห้ามจัดชุมนุมใกล้กับเขตพระราชฐานไม่เกิน 150 เมตร ซึ่งฝ่ายผู้ต้องหาได้แจ้งให้เจ้าพนักงานไปวัดระยะทางแล้ว แต่ไม่มีการวัดระยะทางให้ชัดเจน ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ในระยะที่กฎหมายกำหนดไว้

3.กรณีที่จะกล่าวหาว่าเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกรวมตัวแล้วไม่เลิกนั้น ก็ปรากฏว่าไม่มีการแจ้งจากเจ้าพนักงาน ขณะที่ผู้ต้องหาบางคนตั้งข้อสังเกตว่าที่ต้องถูกดำเนินคดีจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็เป็นช่วงที่เกิดก่อนการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ประมาณ 1 สัปดาห์ด้วย