ซินแสดังผ่าดวงการเมือง คนอดีตอนาคตใหม่ช่วงเมษาเจอศึกหนัก

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง(ซินแสเข่ง) ผู้อำนวยการสถาบันโหรา ศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้จับยามดวงการเมืองในช่วงไตรมาส 2 การพบปะเชื่อมสัมพันธ์พรรคเพื่อไทย และอดีตพรรคอนาคตใหม่เป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น แต่ความจริงใจที่จะร่วมสมานฉันท์เชื่อว่าสัจจะไม่มีในหมู่นักการเมือง ซึ่งพร้อมที่จะแยกทางเดินและหักหลังได้ทุกเมื่อ เพราะเพื่อไทยยังใจไม่ถึงพอกับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ประกอบกับดวงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นศัตรูคู่แค้นกับนายทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ที่จะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นและเดินด้วยกันไม่ได้จากไม่มีความจริงใจต่อกันและมองต่างมุม

นายชนม์ทรรศน์ กล่าวว่า ดวงนายธนาธร ยังขาดการยอมรับในกติกาการเมือง และเดินเกมปลุกนักศึกษาลงถนน โดยเจ้าตัวยังตกดวงแตกแยกและพลัดพราก อีกทั้งนายปิยบุตรก็ตกดวงศัตรูชงดวงปีที่สร้างความขัดแย้งก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้น รวมถึง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ตกดวงเบียดเบียนให้เดือดเนื้อร้อนใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องจากการกระทำของตนเอง ซึ่งเดือนเมษายนนี้ จะเจอศึกหนัก แต่จะเป็นปลุกกระแสอีกระลอกหนึ่งหรือไม่ต้องจับตาดู

"ดังนั้นอดีตอนาคตใหม่เพียงต้องการหาเพื่อนร่วมวิบากกรรมเท่านั้น แต่ก็เชื่อว่าเพื่อไทยก็คิดวางแผนเช่นเดียวกันเพียงคาดว่าต้องการยืมอดีตอนาคตใหม่ซึ่งสามารถปลุกระดมนักศึกษาได้เพื่อหวังล้มรัฐบาลซึ่งลำพังเพื่อไทยเองก็เชื่อว่าพลังไม่เพียงพอที่จะปลุกนักศึกษาให้ลุกขึ้นมาได้และนักศึกษาก็ไม่ให้เครดิตเพื่อไทยด้วยเช่นกัน"ซินแสเข่ง กล่าว

ซินแสเข่ง กล่าวอีกว่า ส่วนพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ 2 พรรคเป็นพรรคเล็กที่ยังไม่สามารถที่จะสร้างกำลังให้เข้มแข็งในยุคการเมืองนี้ได้ เพราะดวงผู้นำทั้งสองพรรคขัดแย้งเป็นศัตรูไม่ว่าจะเป็นพรรคกล้าของนายกรณ์ จาติกวณิช หรือพรรคก้าวไกล ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นเพียงมิติใหม่วงการการเมือง ซึ่งนายกรณ์ขาดความมั่นคงในดวงชะตาเหมือนมีคนช่วยแต่ช่วยไม่จริง ส่วนนายพิธาเก่งในลีลาแต่บารมีอำนาจทางการเมืองไม่มี ประกอบกับวันที่ 8 มีนาคมที่จะมีการเปิดตัวพรรค เป็นวันขัดแย้งสร้างความเป็นศัตรู และเป็นเดือนปะทะเหมือนกินยาพิษเข้าไป