posttoday

"พล.ท.พงศกร" แนะวิธีสู้ "เผด็จการ" แบบสันติ

23 กุมภาพันธ์ 2563

อดีตผู้บริหารพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เสนอวิธีสู้การสืบทอดอำนาจของเผด็จการแบบสันติ ให้คนที่อุดหนุนถอดตัว-ประชาชนดิ้นรนเพื่อปากท้องและสิทธิ

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการหยุดการรัฐประหาร บางช่วงในการปราศรัยที่หน้าตึกไทยซัมมิททาวเวอร์เมื่อคืนวันที่ 21 ก.พ.หลังพรรคฯถูกตัดสินให้ยุบ

พล.ท.พงศกร ระบุว่า การปราศรัยน่าจะครั้งสุดท้ายของผม ฝากไปยังประชาชนโดยเฉพาะผู้ที่หัวใจยังเยาว์ มีเวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงให้ลูกหลานมีชีวิตที่ดีขึ้น

การรัฐประหารและสืบทอดอำนาจเผด็จการไม่มีทางทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดี แก้ปัญหาปากท้องอะไรได้ เพราะเป้าหมายของกลุ่มรัฐประหารคือรักษาอำนาจของตนเองไว้ทุกวิถีทางเท่านั้น เขาไม่ได้แยแสประชาชนแต่อย่างใด

ผู้ยึดอำนาจ จะเริ่มจากกล่าวหาใส่ร้ายฝ่ายตรงกันข้าม จัดการความเป็นอิสระของตุลาการและองค์กรอิสระให้มาสนับสนุนตน ควบคุมสื่อหลัก ให้รับสื่อเฉพาะของฝ่ายตน ควบคุมอินเตอร์เนทและโซเชียลเพื่อให้รับข้อมูลจากฝ่ายตนเท่านั้น จับกุมผู้เคลื่อนไหวเพื่อประชาชน ต้อนธุรกิจให้มาเข้ามุ้ง ธุรกิจใดสนับสนุนการยึดอำนาจต้องรวยขึ้น ขยายการควบคุมผ่านกลไกราชการและหน่วยความมั่นคง เตรียมการโกงเลือกตั้ง ควบคุมผู้จัดการเลือกตั้ง และทำวนซ้ำ ๆ เพื่อสืบทอดอำนาจให้ยาวนาน (เรื่องนี้เป็นทฤษฎีของนักวิชาการฝรั่งที่เก็บข้อมูลมาทั่วโลก)

ทางสู้แบบสันติคือ ถอนทรัพยากรทางการเมืองที่สนับสนุนการยึดอำนาจเป็นเผด็จการโดยทำให้

หมดความชอบธรรมในการใช้อำนาจ กลุ่มมวลชนที่สนับสนุนถอนตัว ผู้ทำงานเป็นมือ เป็นเท้า ถอนตัวจนเหลือที่ใช้การไม่ได้ ผู้อุดหนุนด้านการเงินและผลประโยชน์ถอนตัว อำนาจ บารมีที่เป็นทรัพยากรที่มองไม่เห็นหมดไป และอำนาจบังคับที่มาจากราชการทั้งตำรวจ ทหาร ศาล คุก เข้าสู่ระบบปกติ (แนวทางแบบสันตินี้ เสนอโดย ยีน ชาร์ป นักต่อสู้โดยไม่ใช้ความรุนแรง)

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ปัจจัยภายในคือการดิ้นรนของประชาชนทุกคนเพื่อปากท้อง เพื่อชีวิตที่ดีกว่าด้วยการมีสิทธิและเสรีภาพ และลงมือพูดคุยเพื่อให้การถอนฟืนออกจากเตาข้างต้นนั้นเกิดขึ้น โดยไม่ต้องรอใครนำ ใครทำอะไรได้ก็ทำ เพื่อให้คนส่วนใหญ่ทราบถึงปัญหาและอยากแก้ไขอย่างแรงกล้าตลอดเวลาว่า "ถ้าไม่แก้ไข ต้องอดตาย" ประกอบกับ

ปัจจัยภายนอกที่จะมากระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งผู้มีอำนาจควบคุมไม่ได้เช่น แย่งอำนาจกันเอง เกิดสงคราม ต่างชาติกีดกันการค้าหรือคว่ำบาตรแรงๆ เกิดภัยแล้ง ข้าวยาก หมากแพง ค้าขายล่มจมลง ไม่มีขนมปังหรือข้าวจะกิน เป็นต้น เป็นสัญญานว่าโอกาสมาถึงแล้ว โดยไม่ต้องรอใครมานำ ทุกคนทำได้ครับ

"พล.ท.พงศกร" แนะวิธีสู้ "เผด็จการ" แบบสันติ