posttoday

"พิชัย"ห่วงไวรัสโคโรนา-กดบัตรแทนกันยิ่งซ้ำเติมปัญหาศก.ให้ทรุดลงกว่าเดิม

26 มกราคม 2563

“พิชัย” หวั่น ไวรัสโคโรนา และกดบัตรแทนกัน ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยทรุดหนักกว่าปีที่แล้ว ชี้ อันดับคอรัปชั่นของไทยพุ่งยิ่งทำลายความมั่นใจ ติง รัฐบาลสิ้นคิดผุดไอเดียแจกเงินนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“พิชัย” หวั่น ไวรัสโคโรน่า และกดบัตรแทนกัน ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยทรุดหนักกว่าปีที่แล้ว ชี้ อันดับคอรัปชั่นของไทยพุ่งยิ่งทำลายความมั่นใจ ติง รัฐบาลสิ้นคิดผุดไอเดียแจกเงินนักท่องเที่ยวต่างชาติ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน เปิดเผยว่า ดัชนีคอรัปชั่นของไทยพุ่งขึ้นไปอยู่อันดับที่ 101 ถูกเวียดนามแซงขึ้นไปอันดับ 96 แสดงถึงรัฐบาลน่าจะมีคอรัปชั่นมาก ในอดีตไทยเคยอยู่อันดับที่ 76 ก่อนทรุดหนักมาหลายปีติดกัน โดยอันดับคอรัปชั่นที่สูงขึ้นจะยิ่งทำลายความมั่นใจของนักลงทุนต่างประเทศ เพราะความโปร่งใสเป็นปัจจัยหลักในการเลือกลงทุน ซึ่งการที่บริษัทญี่ปุ่นลงทุนน้อยลงจนถูกประเทศจีนแซงก็น่าจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ด้วย ทั้งนี้รัฐบาลยังไม่ได้ตอบเรื่องบริษัทต่างประทศที่ลงทุนในไทยถูกบังคับให้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิเพื่อสนับสนุนพรรคการเมืองว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ทั้งนี้ ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การส่งออกของปี 2562 ติดลบถึง 2.65% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี และปีนี้ยังไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นแถมยังจะถูกสหรัฐตัดจีเอสพีอีก และการว่างงานพุ่งสูงขึ้น ภาวะภัยแล้ง อีกทั้งหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มจะพุ่งเกิน 80% แต่รัฐบาลโดย รมว. ท่องเที่ยวและกีฬา กลับคิดจะแจกเงินให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย ในโครงการชิมช้อปใช้ อินเตอร์ โดยอ้างว่าเป็นการช่วยค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล และไม่เกิดประโยชน์ เป็นนโยบายคล้ายสิ้นคิด เพราะเราคาดหวังว่านักท่องเที่ยวจะมาใช้จ่ายเงินของเขาเพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น แต่กลับจะเอาเงินของเราจากผู้เสียภาษีไปให้เขาใช้ และไม่น่าจะเพิ่มการใช้จ่ายได้มาก นักท่องเที่ยวที่หวังของฟรีก็ไม่ใช่นักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงตามที่ไทยคาดหวังนา

นายพิชัย กล่าวว่า ขนาดโครงการชิมช้อปใช้ในประเทศที่ทำมาก็ไม่ได้ผล จีดีพีของไทยยังคงทรุดหนักต่อเนื่อง อีกทั้งไม่ได้พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และยังถูกเวิร์ลแบงค์และไอเอ็มเอ็มตำหนิมาแล้ว โดยที่น่าห่วงคือ กระทรวงการคลังเจ้าตำรับชิมช้อปใช้ก็เห็นดีเห็นงานสนับสนุนเรื่องนี้ด้วย ซึ่งแสดงถึงแนวคิดที่คิดได้เพียงการแจกเงินเท่านั้น ซึ่งจะเท่ากับเป็นการใช้เงินอย่างสูญเปล่า แทนที่จะนำเงินดังกล่าวไปช่วยเหลือประชาชนที่กำลังยากลำบากจากภัยแล้งที่กินบริเวณกว้างอยู่ในขณะนี้ หรือ แม้กระทั่งหน้ากากกันฝุ่นแทนที่รัฐบาลจะแจก แต่พลเอกประยุทธ์บอกให้ประชาชนซื้อเองแต่กลับจะแจกเงินนักท่องเที่ยวต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะแจกเงินก็อาจจะไม่เพิ่มนักท่องเที่ยวเลยแถมนักท่องเที่ยวอาจจะลดลง เพราะปัจจุบันโลกต้องเผชิญอันตรายที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดในประเทศจีน และเริ่มกระจายไปหลายประเทศ โดยรัฐบาลจีนได้สั่งควบคุมการท่องเที่ยวของประชาชนแล้ว ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวที่จะมาไทยลดลงไปอีก โดยเบื้องต้นคาดว่าไทยจะเสียหายกว่าห้าหมื่นล้านบาทแล้วและมีแนวโน้มจะเสียหายเพิ่มขึ้นอีก อีกทั้งนักท่องเที่ยวจำนวนมากคงไม่อยากมาสูดอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่น PM 2.5 ที่รัฐบาลไม่ได้แก้ไขเลยมาตลอดหลายปีนี้

"ดังนั้นเศรษฐกิจไทยนอกจากจะย่ำแย่จากการส่งออกที่ยังไม่ฟื้น การลงทุนที่หดหาย และภัยแล้งแล้ว การท่องเที่ยวไทยยังจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ อีกทั้งงบประมาณไทยยังมีปัญหาจากการกดบัตรแทนกันของ สส. ในฝั่งรัฐบาลที่เป็นการกระทำผิดอย่างชัดเจน ซึ่งจะทำให้การใช้งบประมาณต้องล่าช้าไปอีก ยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้ว จากฝีมือการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาลมากว่า 5 ปี โดยจะทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะย่ำแย่ยิ่งกว่าปีที่แล้วที่ว่าทรุดหนักมากแล้วก็เป็นได้ ซึ่งเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจจะไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะรับมือกับปัญหาได้ เพราะทุกวันนี้ยังพูดสะเปะสะปะเรื่อยเปื่อยจนหมดความน่าเขื่อถือแล้ว"นายพิชัยกล่าว