posttoday

"ซินแสเข่ง"ชี้ดวงเมืองแข็งโป๊กไม่มีใครมาเปลี่ยนแปลงได้

12 มกราคม 2563

"ซินแสเข่ง"ทำนายดวงเมืองแข็งแกร่งไม่มีใครมีบารมีถึงจะมาเปลี่ยนแปลงได้ ย้ำพรรคอนาคตใหม่ดวงตกเมื่อปะทะดวงเมืองที่แข็งจึงมีแต่วุ่นวายและไม่ประสบความสำเร็จตกศัตรู

"ซินแสเข่ง"ทำนายดวงเมืองแข็งแกร่งไม่มีใครมีบารมีถึงจะมาเปลี่ยนแปลงได้ ย้ำพรรคอนาคตใหม่ดวงตกเมื่อปะทะดวงเมืองที่แข็งจึงมีแต่วุ่นวายและไม่ประสบความสำเร็จตกศัตรู

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.นายชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือ ซินแสเข่ง หมอดูเข็มทิศทองคำ และผอ.สถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มีคำถามที่ตั้งไว้ให้วิเคราะห์ว่า คนชังชาติ คนที่มีความคิดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชาติไทย ต้องดูอย่างไรจึงขอวิเคราะห์ประเด็นดวงชะตา เพราะคนนั้นดวงชะตาเป็นลบ เป็นปฏิปักษ์ต่อดวงเมือง คิดล้มล้างประเทศเพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีความคิดอาฆาตจากตกดวงชะตาทำลาย ปะทะไม่ประสงค์ดีเป็นศัตรู สร้างความแตกแยกให้กับบ้านเมือง อีกทั้งดวงชะตาอาจต้องการตอบแทนคนในอดีตชาติที่หวังทำลายบ้านเมืองแต่ไม่สำเร็จ

นายชนม์ทรรศน์ กล่าวว่า ดวงชะตามนุษย์ที่มีมูลเหตุอาฆาตมาดร้ายต่อแผ่นดินจากสถิติศาสตร์ที่รวบรวมได้ถึงกฎแห่งกรรม ดวงบ้านเมืองกับศัตรูก็เหมือนกับดวงคน เมื่อมีการตั้งดวงเมืองก็ย่อมที่จะมีทั้งบวกและลบ มีทั้งคนสนับสนุนและทำลายต้องการล้มประเทศชาติ ทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือ ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้กลายไปเป็นอื่น หรือตกเป็นเมืองขึ้น หรือก่อให้เกิดการนองเลือดทำลายแตกแยกไม่หวังดีพลัดพรากและสร้างเหตุให้ตายจาก ที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความสับสนไม่เข้าใจ

“ หากคนเล่นการเมืองหวังดีในการบริหารงานบ้านเมืองต้องไม่คิดทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงประเทศเพียงแก้กฎหมายบ้านเมือง ไม่เอาเหตุผลการบริหารบ้านเมืองของชาติอื่นที่ไม่ใช่ชาติไทย หรือเพื่อจ้องที่จะล้มสถาบันฯ เปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง โดยต้องการยุแหย่ให้เกิดความแตกแยกต้องการยึดเมือง หรือ ก่อกบฏให้ตกเป็นเมืองขึ้นของศัตรู ซึ่งยุคนี้เช่นเดียวกันอันตรายอย่างมากในโลกโซเชียลเป็นยุคที่ทำลายกันด้วยการกระทำใช้สื่ออินเตอร์เน็ต หรือยุแหย่เด็กยุคใหม่ซึมซับปัญหาบ้านเมืองเพราะสมองเด็กย่อมรับรู้ได้เร็วทันยุคโซเชียลทันสมัย แต่ก็เชื่อว่า ยังคงยากดวงเมืองประเทศถือว่ามั่นคงที่สุด ซึ่งอย่าไปโทษฝ่ายทหารเลยเพราะพระมหากษัตริย์ยุคก่อนอาจจะเข้าใจในการตั้งดวงประเทศได้ดี ” นายชนม์ทรรศน์ กล่าว

ซินแสเข่ง กล่าวว่า สุดท้ายของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และน.ส.พรรณิการ์ วานิช เกิดมาผิดจังหวะทำให้มีแต่ความผิดพลาดล้มเหลวในการแย่งชิงตลอด และเลขาพรรคอนาคตใหม่ จังหวะที่ดวงตกเป็นศัตรู และดวงชะตาปะทะดวงเมืองที่ทำให้คิดแต่ความขัดแย้ง คิดแก้การเมืองทำให้ถึงจุดแตกแยกไม่สมหวังก่อให้เกิดความไม่เข้าใจ และคิดแก้การเมืองไม่แข็งพอ

อย่างไรก็ตาม ที่คิดลึกไปกว่านั้น ดวงชะตาปะทะดวงเมืองที่ผ่านมาทำให้อดีตผู้นำหลายคนที่ต้องลี้ภัยการเมืองมาแล้ว เชื่อว่า มีแต่ความล้มเหลวไม่มีใครสามารถทำลายหลักของดวงเมืองได้ เพราะดวงเมืองแข็งที่สุด หากใครคิดมีแต่ทำให้บ้านเมืองมีแต่วุ่นวายและไม่ประสบความสำเร็จตกศัตรู เป็นเพราะบารมีและดวงชะตาไม่ให้จึงทำไม่สำเร็จ ” ซินแสเข่งกล่าว