posttoday

ผบ.เหล่าทัพควบเก้าอี้สว.ไม่เหมาะขัดหลักประชาธิปไตย

03 มกราคม 2563

"เทพไท เสนพงศ์"หนุนตัดโควต้าสว.ที่มาจากผบ.เหล่าทัพ ให้ควบตำแหน่งขรก.การเมือง ขัดหลักการระบอบประชาธิปไตย

"เทพไท เสนพงศ์"หนุนตัดโควต้าสว.ที่มาจากผบ.เหล่าทัพ ให้ควบตำแหน่งขรก.การเมือง ขัดหลักการระบอบประชาธิปไตย

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ facebook live จากสภากาแฟ ร้านโกหง่า ตลาดนัดสระไคร อ.เฉลิมพระเกียรติ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ ผบ.เหล่าทัพออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาว่า ในขณะนี้หลายฝ่ายเห็นด้วยกับหลักการ ที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้แสดงความเห็นให้ตัดโควต้าสมาชิกวุฒิสภาที่มาจาก ผบ.เหล่าทัพ6ตำแหน่ง เพราะขัดต่อหลักการในระบอบประชาธิปไตย ที่ให้ข้าราชการประจำควบตำแหน่งข้าราชการการเมืองได้ด้วย

การที่ ผบ.เหล่าทัพจะเข้ามานั่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีความเหมาะกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ส่วนการที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อ้างเหตุผลของการที่ ผบ.เหล่าทัพเป็นสมาชิกวุฒิสภา เพื่อต้องการประสานงานด้านข้อมูลข่าวสาร กับผู้ใต้บังคับบัญชาบัญชานั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะ ผบ.เหล่าทัพ มีสถานะเทียบเท่าระดับอธิบดีในกระทรวงต่างๆ ถ้าหากต้องการ ประสานงานด้านข้อมูลกับฝ่ายข้าราชการประจำจริง อธิบดีทุกกรม ก็ควรมีสิทธิ์มาเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งได้ด้วย ซึ่งขัดกับหลักการในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

การที่ ผบ.เหล่าทัพเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง และรับเงินเดือน สิทธิประโยชน์ต่างๆทั้ง2ตำแหน่งด้วยนั้น ถือว่าเป็นการเอาเปรียบ หรือมีอภิสิทธิ์เหนือบุคคลอื่น ที่เข้าตำแหน่งทางการเมือง2ตำแหน่ง แต่รับเงินเดือนค่าตอบแทนได้เพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น ผบ.เหล่าทัพ ก็ไม่ควรมีสิทธิ์พิเศษเหนือบุคคลอื่นเช่นกัน

ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พูดถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นนี้ว่า ต้องใช้งบประมาณ2-3พันล้านบาทนั้น เป็นงบประมาณในการทำประชามติรัฐธรรมนูญทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะประเด็น ผบ.เหล่าทัพเป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งเท่านั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ยังมีหลายประเด็นที่ต้องศึกษาแก้ไข เพราะฉะนั้นการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช้งบประมาณ2-3พันล้านในแต่ละครั้งเป็นเรื่องปกติ และคุ้มค่ากับการลงทุนในการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงของประเทศไทย.