posttoday

รัฐบาลแจงปมภาษามลายูในภาคใต้ ย้ำส่งเสริมวัฒนธรรมที่หลากหลาย

01 ธันวาคม 2562

รัฐบาลโต้ ตัวแทนภาคประชาสังคม อ้างเกิดวิกฤตภาษามลายูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยืนยันรัฐส่งเสริมอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย

รัฐบาลโต้ ตัวแทนภาคประชาสังคม อ้างเกิดวิกฤตภาษามลายูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยืนยันรัฐส่งเสริมอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อข้อกังวลวิกฤตภาษามลายูในจังหวัดชายแดนใต้ของตัวแทนภาคประชาสังคม ณ เวทีสหประชาชาติ เมื่อวันที่28พ.ย.ว่า รัฐบาลได้ดำเนินการส่งเสริมให้เยาวชนในพื้นที่เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและส่งเสริมอัตลักษณ์วัฒนธรรมและภาษาท้องถิ่นเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยให้การสนับสนุนงบประมาณโรงเรียนตาดีกา สถาบันศึกษาปอเนาะ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา ซึ่งทั้งสามสถาบันนี้เป็นแหล่งให้ความรู้ทางด้านศาสนาและภาษาแก่เยาวชนมุสลิมในพื้นที่ โดยเฉพาะโรงเรียนตาดีกาที่ตั้งอยู่ในชุมชน ซึ่งเด็กระดับประถมจะไปเรียนในวันเสาร์-อาทิตย์

ในส่วนของสถาบันศึกษาปอเนาะ การเรียนการสอนสำหรับเด็กมัธยมเป็นไปอย่างสอดคล้องกับวิถีชาวบ้าน ให้ความรู้ทั้งทางศาสนาและภาษามลายู เสริมด้วยวิชาสามัญเพื่อทักษะในการประกอบอาชีพเท่าทันสถานการณ์

มากไปกว่านั้น ปัจจุบันนี้กระทรวงศึกษาได้จัดทำหลักสูตรกลางอิสลามศึกษาสำหรับผู้สนใจในระดับชั้นประถม มัธยมต้นและปลาย ทั้งในแบบภาษาไทยและมลายู ซึ่งกระทรวงฯไม่ได้เข้าแทรกแซง แต่เป็นการจัดทำหลักสูตรร่วมกันระหว่างศึกษานิเทศก์ที่มีความเชี่ยวชาญ โต๊ะครู และสมาคมโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม

ต่อคำกล่าวเรื่องการไม่ใช้ภาษามลายูเป็นชื่อสถานที่ นางสาวรัชดา ชี้แจงว่าชื่อหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยว หากมีชื่อเรียกภาษามลายูอยู่ก่อนแล้วชื่อนั้นก็ยังใช้อยู่ทุกวันนี้ เช่น บ้านตะบิงติงงี บ้านคาแวะ ต.กาบัง ต.สะเอะ อ.เจาะไอร้อง อ.ระแงะ หาดตะโล๊ะสะมีแล หาดตะโละกาโปร์

ดังนั้น ขอให้ประชาชนและนานาชาติมั่นใจต่อนโยบายของรัฐบาลที่เคารพในเสรีภาพในการนับถือศาสนาของคนทุกกลุ่ม และส่งเสริมอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย รวมถึงการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เพราะนั่นคือหัวใจของสันติภาพอย่างแท้จริง และขอให้พิจารณาข้อมูลต่างๆที่เผยแพร่ด้วยความหนักแน่น อย่าตกเป็นเครื่องมือการสร้างความเกลียดชัง เพราะกระแสจากภายนอกจะกระทบวิถีชีวิตคนในพื้นที่และอาจขยายวงไปสู่ประเด็นอื่น วันนี้คนไทยพุทธและไทยมุสลิมไม่ได้มีความขัดแย้งต่อกัน และประเทศไทยไม่มีความขัดแย้งทางศาสนาหรือวัฒนธรรมแต่อย่างใด