posttoday

"กรณ์" ลุยงาน blockchain ลอนดอน เล็งปั้น GovTech ใช้ยกระดับการทำงานภาครัฐช่วยคนไทยคล่องตัว

25 ตุลาคม 2562

"กรณ์ จาติกวณิช" ลุยงาน blockchain ระดับโลกที่ลอนดอน เล็งปั้น GovTech ใช้ยกระดับการทำงานภาครัฐช่วยคนไทยคล่องตัว

"กรณ์ จาติกวณิช"  ลุยงาน blockchain ระดับโลกที่ลอนดอน เล็งปั้น GovTech ใช้ยกระดับการทำงานภาครัฐช่วยคนไทยคล่องตัว

เมื่อวันที่ 25 ตค. นายกรณ์ จาติกวณิช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุคส่วนตัว Korn Chatikavanich โดยจั่วหัวเรื่องว่า Back to the Future พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวที่เดินทางไปยังกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อเข้าร่วมงานเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกโดยเจ้าตัว ระบุว่า  "ผมแว๊บมาลอนดอน 3 วันเพื่อเข้าร่วมงานเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่จัดโดย Corda (เป็นผู้นำ blockchain service และ platform) - ปีนี้ได้เห็นการนำเทคโนโลยีสำคัญนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายมาก
ผมบินเที่ยวกลางคืนจากกรุงเทพฯ มาถึงลอนดอน 7 โมงเช้า นั่ง airport express มาในเมือง แล้วต่อ taxi มาที่บ้านพัก อาบน้ำเปลี่ยนชุด แล้วนั่งรถไฟใต้ดินไปที่ประชุม ซึ่งเขาประชุมกันใกล้ๆ ที่ทำงานเก่าผมเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ผมก็ต้องนั่งรถไฟสายเดิมไป เหมือนกับที่เคยต้องนั่งทุกๆวันอยู่เกือบสามปีสมัยตอนอายุ 21-23
บรรยากาศในรถใต้ดินตอนเช้าไม่เปลี่ยนมากระหว่าง 1986 กับ 2019 เพียงสมัยนั้นทุกคนหน้าจมอยู่ในหนังสือพิมพ์ แต่เดี๋ยวนี้ทุกคนนั่งเขี่ยโทรศัพท์ (ผมอ่านหนังสือพิมพ์อยู่คนเดียว 555!) สรุปคือไม่มีใครมองหน้ากันเหมือนเดิม

ส่วนที่ดีขึ้นมากคือ 1. ไม่ต้องซื้อตั๋ว ใช้บัตรเดบิท contactless แตะเข้ามาได้เลย 2. ไม่มีการสูบบุหรี่ (คิดๆแล้วไม่น่าเชื่อว่าแต่ก่อนสูบได้) 3. AirPods เก็บเสียงไม่ให้รั่วได้ดีกว่า headphone ของ Walkman มาก ไม่ทำให้ผู้อื่นรำคาญ

งานเริ่ม 10.00น ผมไปถึงตรงเวลาเป๊ะ กาแฟในมือ อดขำไม่ได้ว่าบางทีมีนัดแถวสุขุมวิทยังไปให้ตรงเวลาได้ยากกว่าเลย งานที่มานี่ตั้งใจมามากครับ เพราะผมเชื่อว่า blockchain จะสามารถเอามาใช้ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยได้มาก

หลักของการใช้ blockchain คือการตรวจตราขั้นตอนต่างๆในการทำงานโดยไม่ต้องอาศัย ‘คนกลาง’ เพื่อลดขั้นตอน ลดเวลา และลดค่าใช้จ่าย และเป็นการตรวจเช็คที่แม่นยำที่ไม่สามารถแทรกแซง หรือเปลี่ยนแปลงได้ จึงมีผลต่อการลดการทุจริต ซึ่งเมื่อมีการเพิ่มความ’น่าเชื่อถือ’ ก็ทำให้ต้นทุนลดลง

ในงานนี้มีผู้บุกเบิกการใช้ blockchain สองบริษัทจากไทยมานำเสนอด้วย คือ Digital Ventures (ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์) และ JFin (ในเครือ JMart) - ในกรณี DV เขาได้ใช้ blockchain ในการลดขั้นตอนการทำ invoice financing ทำให้ไทยพานิชย์สามารถลดดอกเบี้ยที่คิดกับลูกค้าลงจาก 18% เหลือ 4% ได้ โดยที่กำไรธนาคารมากขึ้นจากความผิดพลาดที่ลดลง

ส่วนในกรณี JFin เขาใช้ blockchain ในการปล่อยกู้แบบ ‘B2P’ ได้เป็นครั้งแรก
และที่น่าสนใจมากๆคือการนำ blockchain มายกระดับการทำงานของรัฐ หรือสิ่งที่เราเรียกว่า GovTech - ไว้ผมขอกลับมาเล่าต่อว่าเจออะไรบ้าง"