"อนุทิน" ย้ำจุดยืน "สธ." แบนสารพิษเพื่อเกษตรกรมีสุขภาพดีขึ้น
"อนุทิน" ยัน สธ.มีจุดยืนแบนสารพิษ หวังเกษตรกร มีสุขภาพดีขึ้น แนะ ฝ่ายหนุนพาราควอต ส่งข้อมูลให้ คกก.วัตถุอันตรายตัดสินใจ
"อนุทิน" ยัน สธ.มีจุดยืนแบนสารพิษ หวังเกษตรกร มีสุขภาพดีขึ้น แนะ ฝ่ายหนุนพาราควอต ส่งข้อมูลให้ คกก.วัตถุอันตรายตัดสินใจ
จากกรณีที่นายมนัส พุทธรัตน์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เกษตรกรกว่า 500,000 ราย ขอประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันขอยืนยันมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายเดิม อนุญาตให้ใช้พาราควอต ต่อไป เนื่องจากทำให้ต้นทุนการผลิตมีราคาถูกกว่านั้น
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ทำไปเพราะมีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกร ให้มีสุขภาพดีขึ้น และด้วยบทบาทที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สิ่งที่เป็นผลเสียต่อสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ไม่สามารถสนับสนุนได้ ทั้งนี้ ถ้ามีข้อมูลยืนยันว่าพาราควอต ไกรโฟเซส คลอร์ไพลิฟอส ไม่อันตรายก็นำมาเสนอให้คณะกรรมวัตถุอันตรายพิจารณา เช่นเดียวกัน ตนก็พร้อมรับฟังด้วย
แต่ในกระทรวงสาธารณสุข มีความเห็นที่แตกต่าง และเห็นว่าสารเหล่านี้มีอันตราย มิเช่นนั้น โรงพยาบาลทั่วประเทศคงไม่ขึ้นป้ายแบน ขณะที่รัฐมนตรีอีก 3 ท่าน ก็ปฏิเสธสารพิษ เท่ากับว่ามันมีโทษแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่เห็นพ้องต้องกันขนาดนี้
และจากการที่ถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงสาธารณสุข ทุกฝ่ายเห็นด้วยว่ามันต้องยุติการใช้ ตนก็ต้องทำตาม เพราะคนที่ไม่เอาคือนายแพทย์ทั้งนั้น มีวิชา มีความรู้ ส่วนท่านปลัดกระทรวง นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ได้ตัดสินใจด้วยตัวท่านเองไปแล้วว่าไม่เอาสารพิษ ทางเลขา อย.ก็เช่นกัน สำหรับกระทรวงสาธารณสุข จะให้ไปสนับสนุน มันเป็นไปไม่ได้เลย
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข 2 ท่าน ย้ำแล้วว่าการโหสต ไม่ต้องเกรงใจใคร แต่ก่อนโหวตขอให้เสนอว่าต้องโหวตแบบเปิดเผยเท่านั้น แต่ถ้าผลโหวตออกมาเป็นอย่างไร ก็ยอมรับ ถ้าให้ใช้สารพิษต่อ กระทรวงสาธารณสุข ก็เตรียมยารักษาต่อไป
เมื่อถามถึงความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางชุดซึ่งเปิดเผยว่าสารพิษทั้ง 3 ชนิด เป็นต้นเหตุให้มีผู้ป่วยมากถึง 14,000 รายต่อปี นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ามีอันตรายต่อสุขภาพ จะป่วยกี่คนก็ต้องจัดการ เพราะเป็นงานของกระทรวงสาธารณสุข