posttoday

อ.เจิมศักดิ์ แนะรัฐบาลอย่าเลี่ยงชี้แจงในสภา เพราะทำให้ความศรัทธาลด

23 กันยายน 2562

ดร.เจิมศักดิ์ มองกรณีรัฐบาลเลี่ยงชี้แจงในสภาทำให้ความศรัทธาลด สวนทางฝ่ายค้านเตรียมตัวดีคะแนนพุ่ง

ดร.เจิมศักดิ์ มองกรณีรัฐบาลเลี่ยงชี้แจงในสภาทำให้ความศรัทธาลด สวนทางฝ่ายค้านเตรียมตัวดีคะแนนพุ่ง

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านสาขาวิชารัฐศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความคิดถึงถึงท่าทีของรัฐบาลต่อการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาสรุปว่า น่าเสียดายที่ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญจะพยายามตอบคำถามจากตัวแทนประชาชน โดยเลี่ยงไปเลี่ยงมาจึงอาจทำให้ประชาชนมีความศรัทธาลดลง ขณะเดียวกันทำให้คะแนนนิยมและศรัทธาของฝ่ายค้านที่เตรียมตัวมาตั้งประเด็นคำถามและอภิปรายได้ดีพุ่งสูงขึ้น ประชาชนเข้าใจการอภิปรายครั้งนี้ไม่ยาก เพราะเป็นการถามเพื่อให้รัฐบาลตอบหรือชี้แจง และสภาร่วมกันให้ข้อเสนอแนะ

เมื่อคำถามดีแต่รัฐบาลไม่ตอบหรือตอบแบบเลี่ยงๆ ข้อเสนอแนะที่เกิดจากฝ่ายค้าน ก็เลยไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นถกเถียงว่าดี ไม่ดี ทำได้ ทำไม่ได้อย่างไร

ดร.เจิมศักดิ์ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายก ผู้นำการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณที่ถูกถามว่าทำไมจึงนำกล่าวไม่ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ก็ไม่ตอบ และตอนท้ายให้รองนายกฯ วิษณุ เครืองาม มาตอบก็ไม่ตอบตรงคำถาม บอกว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่มีปัญหาและไม่ควรมีการตรวจสอบ และอ้างว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรีกับพระมหากษัตริย์ ประชาชนอื่นๆและรัฐสภาไม่อาจเข้าตรวจสอบได้

ทั้งนี้มองว่า มาตรา 3 อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งน่าจะมีความหมายว่าการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ เป็นการปฏิญาณตนต่อปวงชนชาวไทยผ่านพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข คณะรัฐมนตรีจึงต้องถวายสัตย์ปฏิญาณตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด

นายเจิมศักดิ์ มองว่า อย่างไรก็ตามรัฐบาลจำเป็นต้องอธิบายให้ได้ว่า มีเหตุผลอะไรที่ไม่สามารถถวายสัตย์ฯให้ครบตามรัฐธรรมนูญ และจะแก้ไขอย่างไร การแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ระบุว่า คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐและยุทธศาสตร์ชาติ และต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินนโยบาย โดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ ทั้งนี้ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันเข้ารับหน้าที่

อ.เจิมศักดิ์ ระบุว่า ตนได้ฝันไปก่อนหน้าการประชุมหนึ่งวันว่า จะได้เห็นนายกรัฐมนตรี สวมหัวใจชายชาติทหาร ยอมรับว่าได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ โดยไม่ได้มีเจตนาผิดหลงโดยไม่ได้ตั้งใจ และพร้อมขอพระราชทานอภัยโทษ พร้อมทั้งขอนำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่ พร้อมกับการปรับคณะรัฐมนตรีหนึ่งคน แทนรัฐมนตรีที่สังคมไม่ให้ความเชื่อถือในขณะนี้

แต่ทว่าการไม่ตอบคำถามในสภา อาจถูกกล่าวหาได้ว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับรัฐสภาและรัฐธรรมนูญ มองเป็นเครื่องมือในการบริหารให้มีภาพการบริหารในระบอบประชาธิปไตยอย่างนานาประเทศ เท่านั้น ดังนั้นรัฐบาลต้องแก้ตัวใหม่ ต้องเห็นรัฐธรรมนูญและรัฐสภาสำคัญมากกว่านี้