posttoday

"ตู่"ท้อสู้คดี ยอมรับชีวิตเหนื่อยกับอิสรภาพไม่แน่นอน

23 กันยายน 2562

ประธาน นปช. ท้อต่อสู้หลายคดี เหนื่อยกับอิสรภาพที่ไม่แน่นอน เผยบางช่วงของชีวิตก็เคยคิดเอาชีวิตสังเวยเหมือน "สืบ นาคะเสถียร"

ประธาน นปช. ท้อต่อสู้หลายคดี เหนื่อยกับอิสรภาพที่ไม่แน่นอน เผยบางช่วงของชีวิตก็เคยคิดเอาชีวิตสังเวยเหมือน "สืบ นาคะเสถียร"

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงชะตากรรมและอิสรภาพของ นปช.ว่า ตนเคยพูดไปแล้วว่า เอาแน่เอานอนไม่ได้ ล่าสุดคดีพัทยา ตนต้องกราบขอบพระคุณศาลด้วย ทั้งนี้ ศาลยกฟ้องเพราะเป็นการฟ้องซ้ำเหตุการณ์ปี 2552 ตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค 2 ประชุมกันครบถ้วน ว่าจะฟ้องใครในเขตพื้นที่นครบาล ฟ้องใครในเขตพื้นที่พัทยา และตำรวจได้ให้การต่อศาลว่า ทำไมไม่ฟ้องบุคคลเหล่านี้ ที่พัทยา

ส่วนชะตากรรมและอิสรภาพนั้น นายจตุพร ย้ำว่า ตนพยายามอธิบายเรื่องนี้ เพราะไม่คิดว่าต้องเจอเรื่องแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกกับคดีที่มีแต่ตนตกเป็นผู้ต้องหาในชะตากรรมที่เป็นคนแรกและเป็นคนเดียวของประเทศ

ทั้งนี้ ตั้งแต่คดีที่ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.เพราะติดคุก ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาเลือกตั้ง รวมถึงคดีแพ่ง ที่ตนกับพวกต้องร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งยกมาสองศาล และกลับคำพิพากษาในศาลฎีกา โดยให้เหตุผลว่า ตนเป็น ประธาน นปช. จึงมีความผิด ทั้งที่ขณะนั้นตนยังไม่ได้เป็นประธาน นปช.

กระทั่งมาถึงคดีหมิ่นประมาท 2 คดีที่มีความสัมพันธ์กันในบทลงโทษจำคุกนั้น โดยศาลอุทธรณ์สั่งให้พิพากษากลับออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดใหม่ ให้นายจตุพร กลับไปรับโทษต่อ ทั้งที่พ้นโทษมากว่าปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากถามว่าทำได้หรือไม่

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ชะตากรรมเหล่านี้ เป็นเรื่องของความยากลำบาก เรามีหน้าที่ยอมรับชะตากรรม แต่บางเรื่องมันหมดหนทาง ที่ผ่านมาตนไม่เคยยอมถอยหนี แต่บางช่วงของชีวิต ตนก็เข้าใจการเอาชีวิตสังเวย ขณะกำลังต่อสู้เรื่องการรักษาทุ่งใหญ่นเรศวรของนายสืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตนเองก็เคยคิดเหมือนกัน แต่บังเอิญว่ามีสัมภาระ มีชีวิตที่จะต้องรับผิดชอบจำนวนมาก

“มันเป็นเรื่องที่ไม่รู้จะสู้กันอย่างไร ติดคุกก็ติดมาแล้ว ทุกอย่างสารพัดที่จะโดน น้อมรับชะตากรรมทุกอย่าง ก็ยังจะต้องมาโดนอย่างนี้กันอีก แต่ทั้งหมดเราก็ยังต้องเคารพกระบวนการยุติธรรมนี้อยู่ เพียงแต่เราปรับทุกข์ให้ฟัง เพราะว่าเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาของประเทศไทย ที่ผมบอกว่ามันหมดหนทาง หมดที่พึ่งแล้ว เหลือสิ่งเดียวที่ยังพึ่งได้ คือพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น”

นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องคดีในวันพรุ่งนี้ ขอไม่พูดถึง เนื่องจากไม่ต้องการก้าวล่วงศาล แต่จะทำหน้าที่ให้กำลังใจ และคิดหนทางทุกอย่าง เมื่อสิ้นกระแสความแล้ว เราก็ควรจะรู้ว่า เราจะต้องทำอย่างไร แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่จะทำได้ ในฐานะมิตรร่วมชะตากรรมนั้น คือการให้กำลังใจ ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ