posttoday

กกต.ขยับเตรียมพิจารณาปม"ธนาธร"ให้เงินกู้"อนาคตใหม่สัปดาห์หน้า

20 กันยายน 2562

"จรุงวิทย์"แจงสัปดาห์หน้าส่งเรื่องให้กกต.พิจารณาปม"ธนาธร"ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน191 ล้าน

"จรุงวิทย์"แจงสัปดาห์หน้าส่งเรื่องให้กกต.พิจารณาปม"ธนาธร"ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน191 ล้านบาท

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการตรวจสอบเรื่องที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจำนวนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดว่า สัปดาห์หน้าสำนักงานกกต.จะส่งเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมกกต.เพื่อพิจารณา

ทั้งนี้ นายธนาธร ได้แจ้งต่อป.ป.ช.ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเมื่อวันที่ 20 ก.ย.ว่าได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน จำนวน 191,200,000 บาท โดย มีการทำหนังสือสัญญากู้เงิน ที่พรรคอนาคตใหม่ โดยมี 2 สัญญา แบ่งเป็นสัญญากู้เงินที่ทำสัญญา ลงวันที่ 2 ม.ค.2562 โดยมี นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกพรรค ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคเป็นผู้ทำสัญญากู้ โดยมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายพุฒิพงศ์ พงศ์อเนกกุล ลงชื่อเป็นพยานในการทำสัญญากู้เงิน เป็นการกู้เงินจำนวน 161,200,000 บาท ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ตกลงจะชำระเงินกู้ ภายใน 3ปี โดยแบ่งเป็นปีที่ 1 ชำระ 80 ล้านบาท ปีที่ 2 ชำระ 40 ล้านบาท และปีที่ 3 ชำระ 41,200,000 บาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

ในส่วน สัญญากู้เงินที่ทำสัญญา ลงวันที่ 11 เม.ย.2562 โดยมีนายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิกพรรค ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคเป็นผู้ทำสัญญากู้ โดยมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล และนายพุฒิพงศ์ พงศ์อเนกกุล ลงชื่อเป็นพยานในการทำสัญญากู้เงิน เป็นการกู้เงินจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ตกลงจะชำระเงินกู้ภายใน 1 ปี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี

อย่างไรก็ตามนายธนาธรได้แจ้งว่าในสัญญากู้เงินวันที่ 2 ม.ค.2562 พรรคอนาคตใหม่ได้ดำเนินการชำระหนี้สินบางส่วนให้แก่นายธนาธรแล้ว ส่วนสัญญากู้เงินวันที่ 11 เม.ย.2562 พรรคอนาคตใหม่เพิ่งได้รับเงินกู้จากนายธนาธรจำนวนหนึ่ง โดยได้รับเงินกู้ในวันที่สัญญา 2,700,000 บาท

สำหรับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 66 ระบุว่า บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้ และในกรณีที่บุคคลนั้นเป็นนิติบุคคลการบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองไม่ว่าพรรคเดียว หรือหลายพรรค เกินปีละ 5 ล้านบาท ต้องแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมใหญ่คราวต่อไปหลังจากบริจาคไปแล้ว และพรรคการเมืองจะรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกินกว่าวรรคหนึ่งมิได้