posttoday

"สมศักดิ์" รับไม่ง่ายยกเลิกคู่สัญญากำไลอีเอ็ม

30 สิงหาคม 2562

รมว.ยุติธรรม ชี้ ไม่ง่ายยกเลิกคู่สัญญากำไลอีเอ็มบริษัทเอกชน ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายวินิจฉัย รับห่วงต้องส่งคืนงบกำไลอีเอ็มคืนคลัง หวั่นกระทบระบบงานยุติธรรม

รมว.ยุติธรรม ชี้ ไม่ง่ายยกเลิกคู่สัญญากำไลอีเอ็มบริษัทเอกชน ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายวินิจฉัย  รับห่วงต้องส่งคืนงบกำไลอีเอ็มคืนคลัง หวั่นกระทบระบบงานยุติธรรม

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิด “งานคุมประพฤติ 40 ปีมุ่งสู่ Probation 4.0” โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันผู้กระทำผิด ซึ่งอยู่ในความดูแลของกระทรวงยุติธรรม ประกอบด้วย กรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมคุมประพฤติ มีจำนวนกว่ากว่า 7 แสนคน  ซึ่งการถูกคุมประพฤติถือเป็นระบบงานหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการแก้ไขฟื้นฟู และให้โอกาสกับผู้กระทำผิดให้สามารถกลับตนเป็นคนดี  โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบเรือนจำ และเป็นมาตรการทางเลือกในการลงโทษผู้กระทำผิดแทนการจำคุก โดยใช้การแก้ไขฟื้นฟูและการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดที่ได้รับโอกาสดังกล่าว ที่ผ่านมา ระบบ งานคุมประพฤติได้มีพัฒนาการทั้งในด้านกฎหมาย โครงสร้างองค์กร การบริหารจัดการ และการบูรณาการกับภาคประชาสังคมเพื่อวางระบบงานคุมประพฤติในชุมชน โดยมีภาคประชาชนที่เป็นกำลังสำคัญในการดูแลผู้กระทำผิดในชุมชน คืออาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายภาคีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในงานคุมประพฤติ ส่งผลให้การแก้ไขฟื้นฟูดูแลผู้กระทำผิดในชุมชนมีประสิทธิภาพ และเพื่อสร้างหลักประกันความปลอดภัยให้กับชุมชน

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้อุปกรณ์อีเลคทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็มไม่มีประสิทธิภาพและไม่ตรงตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาว่า เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมคุมประพฤติ  ซึ่งต้องร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญและนักกฎหมายในภาคราชการดำเนินการตรวจสอบดูข้อเท็จจริงว่าตรงกับสัญญาที่ระบุไว้หรือไม่  และคาดว่าคงต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่ง ส่วนการยกเลิกสัญญากับบริษัทเอกชนคู่สัญญาก็จะต้องใช้เวลากับคณะกรรมการฯพิจารณาอย่างรอบคอบว่าสามารถแก้ไขได้หรือไม่ หากไม่ได้จะต้องดำเนินการในลักษณะใดได้บ้าง เนื่องจากมีเงื่อนไขของเวลาในการเบิกจ่ายงบประมาณที่จะสิ้นสุดปีงบประมาณในปลายเดือนกันยายนนี้ และในกรณีที่ไม่สามารถเบิกง่ายงบประมาณจำนวนนี้ออกมาใช้ได้ก็ต้องโอนงบประมาณกลับคืนให้กระทรวงการคลังเป็นเรื่องที่น่าวิตก แต่ทั้งนี้ตนก็จะไม่เข้าไปล้วงลูกเพราะได้ทำหน้าที่ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงแล้ว และปล่อยให้ส่วนราชการเป็นผู้รับผิดชอบต่อไป