ฝ่ายค้านปรับแผนยื่นซักฟอกบิ๊กตู่หลังไม่ยอมมาตอบกระทู้สดปมถวายสัตย์

ประธานวิปฝ่ายค้านลั่นลุยยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติปมถวายสัตย์หลังบิ๊กตู่ไม่ยอมมาตอบกระทู้ถามสดในสภา

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า น่าเสียดาย ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่มาตอบกระทู้ถามสด เรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ เมื่อท่านไม่มาเราก็จะดำเนินการตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญต่อไป คือการยื่นขอเปิดอภิปรายต่อไป แบบไม่ลงมติ โดยจะปรึกษาหารือกันอีกครั้งว่าจะยื่นเมื่อไหร่

"คิดว่าจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ก่อนการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ เพราะว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งพรรคฝ่านค้านจะปรึกษาหารือกันภายในสัปดาห์นี้เพื่อจะยื่นภายในวันศุกร์(16ส.ค.)นี้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องเคลียร์สถานภาพของตัวเองให้สมบูรณ์ก่อน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการอภิปราย ยืนยันว่าไม่ได้มีความพยายามจะล้มรัฐบาล และการดำเนินการตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ เราจะประมวลความไม่ธรรมให้หมด ทั้งความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล ความไม่ชอบธรรมของนายกฯ ซึ่งก็มีที่มาตั้งแต่การสรรหา ส.ว. ที่ไม่ชอบธรรมแล้ว” นายสุทิน กล่าว

ด้าน นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า น่าเสียดาย ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มาตอบกระทู้ และตนเองได้พยายามใช้กลไกของสภาในการหาทางออกให้กับนายกฯ ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะล้มนายกฯ แต่คิดว่าในเมื่อมีปัญหาเรื่องความชอบธรรมเกิดขึ้น ก็ควรหาวิธีการแก้ไข เมื่อถวายสัตย์ไม่ครบก็สามารถขอพระบรมราชานุญาติถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ และสามารถทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินต่อไปได้

ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ตนเองยื่นกระทู้ไป พล.อ.ประยุทธ์ ก็แจ้งว่าจะมาตอบในสัปดาห์นี้ จึงยื่นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อรอให้นายกฯ มาตอบ หรือส่งตัวแทนมาตอบก็ได้ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเศษกระดาษที่ใช้อ่านคำถวายสัตย์ของนายกฯ ถ้าย้อนกลับไปดูจะพบว่าเวลาที่นายกฯ ถวายสัตย์จะใช้สมุดปกแข็งหุ้มกำมะหยี่สีน้ำเงิน เรื่องนี้สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนจัดเตรียมให้ ในหนังสือของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ระบุรายละเอียดไว้อย่างชัดเจน จึงสงสัยว่าครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เขียนใส่กระดาษเองหรือไม่

สำหรับจะรอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการเรื่องนี้ไปก่อนหรือไม่นั้น นายปิยบุตร กล่าวว่า หากคณะรัฐมนตรี หันมาหาทางออกร่วมกันจะสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่าให้องค์กรอื่นวินิจฉัย ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยว่า ไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญปัญหาก็จะคาราคาซัง ว่า ตกลงแล้วการถวายสัตย์สมบูรณ์หรือไม่ หรือหากส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ และวินิจฉัยว่าไม่สมบูรณ์จะทำอย่างไร มติครม. ที่ออกมาจะแก้ไขอย่างไร หรือหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมบูรณ์ก็จะเกิดเป็นบรรทัดฐานใหม่ ว่าถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนก็ได้