posttoday

"จุติ"ประกาศพร้อมร่วมแถลงนโยบายรัฐบาลไม่หวั่นฝ่ายค้านซักฟอก

22 กรกฎาคม 2562

ลั่นกระทรวงพัฒนาสังคมฯมุ่งเน้นทำประโยชน์ให้ประชาชนทุกคน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย

ลั่นกระทรวงพัฒนาสังคมฯมุ่งเน้นทำประโยชน์ให้ประชาชนทุกคน ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย

22 ก.ค. 62 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สะพานขาว กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรกในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง พม. อาทิ องค์พระประชาบดี และศาลพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ กรมหลวงสิงหวิกรม เกรียงไกร เพื่อเป็นสิริมงคลในการทำงานเป็นวันแรก ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) คณะผู้บริหารและข้าราชการกระทรวง พม. และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

จากนั้น เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูง เพื่อรับฟังรายงานภารกิจและผลการดำเนินงานในภาพรวมของกระทรวง พม.

นายจุติ แถลงข่าวหลังจากประชุมร่วมกับผู้บริหารระดับสูงรวมเวลากว่า 2 ชั่วโมง ว่าขอให้ข้าราชการกระทรวง พม. ได้เตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลเพื่อตอบคำถามนโยบายรัฐบาลในการแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25 – 26 ก.ค. นี้ ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องที่สามารถชี้แจงได้ถูกประเด็น และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวฝ่ายค้านซักฟอกหรือไม่ นายจุติตอบว่า ไม่กลัวการซักฟอกจากฝ่ายค้าน เพราะจะทำงานเพื่อประชาชนทุกคน และจะให้เกียรติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกพรรค รวมทั้งสมาชิกรัฐสภา เพราะทุกท่านเป็นตัวแทนจากประชาชน

นายจุติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ การจัดงบประมาณปี 2563 ได้มุ่งเน้นการของบประมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาระงานของกระทรวง พม. มีจำนวนมาก โดยเฉพาะด้านผู้สูงอายุ แม่ และเด็กเล็ก ตามนโยบายของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนคน และจำนวนเงินที่จะได้รับ ซึ่งผู้สูงอายุในปัจจุบัน มีจำนวน 11.5 ล้านคน หากดำเนินการตามนโยบายหาเสียง จะต้องให้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คนละ 1,000 บาท สำหรับทุกคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งได้ขอให้ ปลัด พม. ช่วยส่งข้อมูลโดยเร็ว รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ จากทุกกรม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานและผลักดันให้เป็นจริง

อีกทั้งที่ประชุมยังรายงานถึงการอุดหนุนค่าอาหารผู้สูงอายุ ซึ่งไม่เพียงพอที่ได้รับเพียงวันละ 57 บาท โดยจะขอเพิ่มการอุดหนุนให้มากขึ้นกว่าเดิม

ในตอนท้าย นายจุติ ไกรฤกษ์ได้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 4 ธันวาคม 2533 มอบให้กับข้าราชการกระทรวง พม. ทุกคน

“...ต่างคนต่างมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเฉพาะหน้าที่นั้น เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัว โดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่า...งานทุกงานจะต้องพาดพิงกันจะต้องเกี่ยวโยงกัน ฉะนั้นแต่ละคนต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นแล้วช่วยกันทำ...”

และพระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2522 ที่ว่า “...การที่จะให้งานประสานกันนั้น มีหลักสำคัญอยู่ว่า ทุกฝ่ายจะต้องไม่แบ่งแยกกัน ไม่แย่งประโยชน์ ไม่แย่งความชอบกัน แต่ละฝ่ายแต่ละคนต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจ มุ่งหวังผลสำเร็จในการงานเป็นใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งอื่น...”