posttoday

"จตุพร"ชี้ภัยแล้ง-ขึ้นค่าแรง ปัญหาท้าทายรัฐบาล แนะฝ่ายค้านปรับกลยุทธ์

22 กรกฎาคม 2562

จตุพรชี้ปัญหาภัยแล้งและการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกำลังเป็นปัญหาท้าทายรัฐบาล แนะฝ่ายค้านปรับกลยุทธ์ใช้คนอภิปรายน้อยแต่เข้าเป้า

จตุพรชี้ปัญหาภัยแล้งและการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกำลังเป็นปัญหาท้าทายรัฐบาล แนะฝ่ายค้านปรับกลยุทธ์ใช้คนอภิปรายน้อยแต่เข้าเป้า

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์พีซทีวีตอนหนึ่งว่า ในปีนี้ ส่อเค้าจะเกิดปัญหาภัยแล้งอย่างไม่เคยประสบมาก่อนในรอบหลายๆปี อนาคตของเกษตรกร จากเดิมที่ปลูกพืชได้ แต่ขายไม่ได้ราคา ยกเว้นพืชบางชนิด เช่น ทุเรียน หากไม่ได้รับการวางแผนที่ดี ก็จะจบแบบลำไย ซึ่งราคาตกต่ำมาตลอดหลายปี เหมือนกับยางพาราดังนั้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นเรื่องท้าทายรัฐบาลที่บริหารประเทศมา 5 ปี ยังไม่เคยพบกับปัญหาภัยแล้ง

นายจตุพร กล่าวอีกว่า เรื่องการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามที่หาเสียงกันไว้ที่ 425 บาทนั้น เมื่อได้เป็นรัฐบาลกลับมีท่าทีว่าจะทำไม่ได้ตามที่หาเสียงไว้ ในขณะที่ ค่าครองชีพ /สินค้าต่างๆกลับขึ้นราคารอ ตามกระเเสการขึ้นค่าเเรงขั้นต่ำไปแล้ว ทุกอาชีพประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ทั้งเรื่องประมง การเกษตร

นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้นั้น ต้องดูวิวัฒนาการ ตามที่ตนเคยพูดมาตั้งแต่ต้นว่า ฝ่ายผู้มีอำนาจมีวิวัฒนาการมาโดยตลอด มีการปรับขบวนท่า ซึ่งในช่วง 5 ปีมานี้จะเห็นได้ชัดว่า ขยับนิดเดียว 3 นาที ถึงบ้าน เรียกปรับทัศนคติหรือพาไปคุมขัง เหล่านี้คือผลพวงในตลอดระยะเวลา 5 ปีมานี้

รวมทั้ง สภาพการณ์ในช่วง 5 ปีนี้ฝ่ายต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่ค่อยได้ทบทวนตัวเอง ขณะเดียวกันผลพวงจาก 10 ปีผ่านมา คือเรื่องคดีความ ที่อีกไม่กี่วันถัดจากนี้ไป ยังมีคดีอีก 3 ฏีกา และ 1 ศาลชั้นต้น ซึ่งมีแกนนำ นปช.เกือบทั้งหมดเป็นจำเลย ส่วน กปปส.มี 1 คดีในเดือนนี้ นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง

นายจตุพร กล่าวต่อว่า สิ่งที่สามารถจะทำได้ในขณะนี้คือ การประเมินทุกอย่าง โดยเอาเป้าหมายเป็นหลัก ส่วนวิธีการเป็นรอง และยังมีความหวังว่า ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองสามารถเกิดอะไรได้ทุกเวลา

นายจตุพร ระบุด้วยว่า ในกระบวนการเวทีรัฐสภา ฝ่ายค้านที่มีศักยภาพเท่านั้นที่สามารถจัดการในเวทีรัฐสภาได้ และเป็นโอกาสที่ดีที่สุด หากฝ่ายค้านมีความมุ่งมั่นในการตรวจสอบรัฐบาลอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันรัฐบาลเองหากต้องการตัดปัญหาความวุ่นวายนอกสภา ก็ต้องไม่ปิดกั้นในเวทีสภา ยิ่งปิดกั้นในเวทีสภามากเท่าไหร่เท่ากับเป็นการผลักให้ประชาชนออกมาข้างนอกมากเท่านั้น และหากรัฐบาลต้องการให้ทุกอย่างจบที่สภา ก็เปิดให้มีการอภิปรายในเวทีรัฐสภาอย่างเต็มที่ แต่ปรากฎว่า มีการเปิดให้อภิปราย เพียง 2 วัน

"ฝ่ายค้านต้องปรับตัว เมื่อรัฐบาลลดเวลาการอภิปรายลง ฝ่ายค้านก็ต้องลดคนอภิปรายลง ใช้คนเพียงไม่กี่คนทำการบ้านมาอย่างดี ให้สามารถอธิบายเรื่องราวต่างๆได้อย่างครบถ้วน เพราะเวลาน้อยใช้คนมากมันจะไม่มีประสิทธิภาพ"นายจตุพรกล่าว