ฝ่ายค้านลุยงาน!จ่อยื่นญัตติสอบปมสรรหาสว.-ชำแหละคุณสมบัติ“บิ๊กตู่”

“วิปฝ่ายค้าน” จ่อ ยื่นญัตติด่วนตั้ง คกก.สอบข้อเท็จจริงปมสรรหา สว.เข้าสู่ที่ประชุมสภาสัปดาห์นี้ พร้อมชำแหละคุณสมบัติ “ประยุทธ์” ช่วงแถลงผลงานต่อรัฐสภา  พท.เย้ย “ประยุทธ์” รีบรับตำแหน่ง หน.พปชร.โดยเร็ว เคลียร์ปมต่อรองเก้าอี้

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้านจาก 7พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคเสรีรวมไทย

นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการแต่งตั้งตัวแทนของพรรคร่วม เพื่อยกร่างข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ที่จะมีการประชุมในวันที่ 19มิ.ย. เวลา 11.00น. ที่ห้องประชุมใหญ่ทีโอที สำนักงานใหญ่ และกำหนดกรอบการทำงานร่วมกันในสภาฯ โดยจะให้แต่ละพรรคส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นคณะทำงานของฝ่ายค้าน และนัดหมายประชุมกันทุกสัปดาห์เพื่อวางตัวผู้อภิปราย การเสนอกระทู้สด และการเสนอญัตติด่วนเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ นอกจากนี้ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านยังหยิบยกประเด็นเรื่องการยื่นญัตติด่วนต่อประธานสภาฯ เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการสรรหา ส.ว.มาหารือ โดยขณะนี้ร่างญัตติดังกล่าวมี ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยร่วมลงชื่อครบถ้วนตามระเบียบแล้ว และจะเชิญชวนพรรคร่วมได้ร่วมลงชื่อในญัตติดังกล่าวด้วย ซึ่งหากขั้นตอนการลงชื่อเสร็จเรียบร้อย ก็จะนำเสนอต่อประธานสภาฯ ทันที เพื่อให้บรรจุเป็นวาระการประชุมได้ทันภายในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้วิปฝ่ายค้านยังหารือถึงแนวทางการอภิปรายรัฐบาล ที่เตรียมจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และจะเดินหน้าพิจารณาคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อ เนื่องจากเห็นว่าคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค พท. กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยเร็ว เพื่อยุติความวุ่นวายเรื่องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีในพรรคที่ไม่ลงตัว เพราะขณะนี้การตั้งรัฐบาลมีความล่าช้ามาก ทำให้เกิดเป็นภาพพจน์ที่ไม่ดีนักการเมืองอีกด้วย ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เคยออกมาระบุว่ากระบวนการสรรหา ส.ว.รวมถึงรายชื่อคณะกรรมการสรรหาไม่จำเป็นต้องเปิดเผยก็ได้ เพราะประชาชนไม่มีส่วนได้เสียกับเรื่องดังกล่าวนั้น ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการพูดแบบไม่ยั้งคิด เพราะแม้ ส.ว.จะมาจากการสรรหา ไม่ใช่เลือกตั้งโดยประชาชนก็ตาม แต่เมื่อมาทำหน้าที่ในสภาฯ ที่ต้องพิจารณากฎหมายสำคัญมากมายที่มีผลต่อประชาชน ก็ถือได้ว่าเป็นตัวแทนที่มาทำหน้าที่เพื่อประชาชน ดังนั้นประชาชนต้องมีสิทธิ์รู้กระบวนการทุกอย่างเพื่อให้เกิดความโปร่งใส