"กรณ์" ส่งไม้ต่อประธานฟินเทค พร้อมลุยช่วยงานการเมือง

เดินหน้าทำตามคำพูด “#อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้” "กรณ์" ส่งไม้ต่อประธานฟินเทค พร้อมลุยโครงการข้าวอิ่มปี 6 ขยาย ผล English For All ทั่วประเทศ

ภายหลังจากมีการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีคอมเมนท์ผ่านข่าว รวมถึงบทความ ข้อเขียนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนถึงสื่อมวลชนมากมาย ตั้งข้อคำถามว่า ทำไมถึงไม่มีชื่อ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผู้ทำชุดนโยบาย “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ และเป็นผู้ที่สื่อมวลชนต่างประเทศยกให้เป็น รัฐมนตรีคลังโลกคนเดียวของประเทศไทย 

โดยก่อนหน้านี้ ชื่อของนายกรณ์ ก็ไม่ปรากฎทั้งในรายชื่อคณะรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ และในทีมอเวนเจอร์เศรษฐกิจใหม่ของนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้เช่นเดียวกัน ซึ่งนายกรณ์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Korn Chatikavanij อธิบายในวันเดียวกันว่า “วันนี้ในการประชุมพรรคเพื่อพิจารณารายชื่อผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรี ทางผู้บริหารพรรคได้เสนอชื่อ 7 ท่านที่จะเป็นรัฐมนตรีในนามของพรรค  ซึ่งไม่มีผมอยู่ด้วย – พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลนะครับ พร้อมกับติดแฮชแทคว่า  ผม #อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ ผมจะทำหน้าที่ในฐานะ สส. ให้ดีที่สุดต่อไป”

ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของอดีตประธานกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (17 มิ.ย.) นายกรณ์ จาติกวณิช ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Korn Chatikavanij อีกครั้งเป็นการส่งไม้ต่อประธานสมาคมฟินเทคหลังดำรงตำแหน่งมา 3 ปี พร้อมกับติดแฮชแท็ก #อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้ และระบุว่า

วันนี้ได้ส่งไม้ต่อตำแหน่ง ‘ประธานสมาคมไทยฟินเทค’ อย่างไม่เป็นทางการกับพี่แก้ว ทิพยสุดา ถาวารมร อดีตรองเลขาธิการ ก.ล.ต. เราโชคดีมากที่ได้พี่แก้วมาสานต่อภารกิจของสมาคม ผมรู้จักพี่แก้วมาเกือบ 30 ปี  และวงการตลาดทุนได้ประโยชน์อย่างมากจากการมีคนเก่งและมีอุดมการณ์อย่างพี่แก้ว  สามปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการพัฒนาด้าน fintech เยอะมาก ตั้งแต่ robo-advisory การกู้ยืม P2P ไปถึง crypto-currency และคนไทยทั่วไปก็ได้พบกับ GovTech ทางด้านนี้เช่น ‘พร้อมเพย์’ เป็นต้น

พันธกิจของสมาคมยังเหมือนเดิมครับ คือ 1. เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงินให้ประชาชนคนไทย 2. ลดต้นทุนการเงินให้คนไทย 3. ส่งเสริม startup ไทย 4. เพิ่มการแข่งขันในธุรกิจการเงิน

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้นายกรณ์ กำลังเตรียมการประสานงานในฐานะเป็นผู้ทำนโยบายในชุด ‘แก้จนสร้างคนสร้างชาติ’ และได้ทดลองมาตลอด 5 ปี ว่าสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ ต่อว่าที่รัฐมนตรีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการขยายผลโครงการเกษตรเข้มแข้ง หรือข้าวอิ่ม รวมถึงเตรียมประสานว่าที่รัฐมนตรีศึกษาธิการให้ผลักดัน English For All ให้ครอบคลุมไปในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นโครงการที่ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างแท้จริง เปิดโอกาสให้เด็กยากจนได้เข้าถึงการเรียนรู้ภาษา ซึ่งเกิดประโยชน์โดยตรงแก่ทักษะของเด็ก และได้รับการตอบรับจากผู้ปกครองและครูเป็นอย่างดี