บิ๊กแดง ลั่นเป็นกลางแม้สนิท "บิ๊กตู่"-พร้อมทำงานกับทุกรัฐบาลเลือกตั้ง
ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์สื่อสิงคโปร์ เผยทหารพร้อมทำงานกับทุกรัฐบาลหลังเลือกตั้งถ้าไม่ทำถือว่าขัดกฎหมาย-ยันวางตัวเป็นกลางแม้สนิทกับ พล.อ.ประยุทธ์
ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์สื่อสิงคโปร์ เผยทหารพร้อมทำงานกับทุกรัฐบาลหลังเลือกตั้งถ้าไม่ทำถือว่าขัดกฎหมาย-ยันวางตัวเป็นกลางแม้สนิทกับ พล.อ.ประยุทธ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) ได้ให้สัมภาษณ์ Straits Times ของสิงคโปร์ ถึงมุมมองการเมือง ว่า นักการเมืองมักโจมตีกองทัพเพราะเชื่อว่าถ้าสามารถทำให้คนไทยไม่ชอบทหารหรือไม่วางไว้ใจกองทัพ กองทัพจะล่มสลายประเทศจะถูกทำให้อ่อนแอ แล้วจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับสถาบันฯ ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนไทย
ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ยืนยันในความเป็นกลางของกองทัพบกในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่าจะมีความสนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพราะทั้งคู่เติบโตในกองทัพบกด้วยกัน และเคยทำงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ มา แต่ด้วยเพราะเป็นทหารรอาชีพ จึงต้องประกาศว่ากองทัพจะต้องกลับมาวางตัวเป็นกลาง
สื่อสิงคโปร์ ระบุด้วยว่า ผบ.ทบ. เป็นนายทหารสายที่จงรักภักดีต่อสถาบันอย่างมาก และสวมหมวกหลายใบทั้ง เลขาธิการ คสช. และ ผบ.ฉก.ทม.รอ. รวมถึงบอร์ดสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
“ผมไม่ได้ต้องการจะไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่มันยากที่จะอธิบายว่า กองทัพบกเรา มีหน้าที่หลักต่อประชาชนอย่างไรบ้าง แต่ตอนนี้ใน Social media , Social network มีการโจมตีทหาร อย่างไม่เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของเราที่มีต่อประเทศ และสถาบันฯ เราไม่สามารถไปบังคับให้ทหารเลือกใคร หรือไม่เลือกใครได้ เช่น ที่มีข่าวลือออกมาเราให้ free vote ให้กำลังพล เลือกคนที่ถูกต้องเหมาะสม และพรรคที่ถูกต้องเหมาะสม” ผบ.ทบ.กล่าว
นอกจากนี้สื่อสิงคโปร์ ระบุด้วยว่า พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ บิดาของ พล.อ.อภิรัชต์ เคยเป็นหัวหน้ารัฐประหารในปี 1991 จนนำไปสู่ bloody crackdown เหตุการณ์นองเลือดในเดือน พ.ค.1992 ซึ่งประเทศไทยมีการรัฐประหารที่สำเร็จ 12 ครั้ง ตั้งแต่ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 1932 และตอนนี้ก็ยังมีข่าวลือรัฐประหารเกิดขึ้นเสมอๆ หลังจากพรรคไทยรักษาชาติ เสนอชื่อบุคคลสำคัญเป็นแคนดิเดตนายกฯพรรค ก่อนที่เหตุการณ์จะจบลงในคืนวันนั้น
Straits Times ระบุอีกว่า Gen Apirat has never ruled out staging a coup.ไม่เคยปฏิเสธว่า จะไม่มีการรัฐประหารอีก ครั้งนี้ก็เช่นกัน พล.อ.อภิรัชต์ ตอบว่า “It depends on the situation,” มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์
“ไม่มีใครอยากปฏิวัติ เรามีทางเลือกอื่นที่ดี เช่น การประกาศ ภาวะฉุกเฉิน แต่ถ้าประเทศตกอยู่ในภาวะวุ่นวาย ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ขอให้วางใจผม ผมเคารพรัฐธรรมนูญ ผมเป็นทหารอาชีพ”
เมื่อพูดถึง พล.อ.สุนทร บิดาผู้เป็นหัวหน้ารัฐประหาร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ผมคงไม่สามารถเดินตามรอยเท้าพ่อได้ เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ที่พ่อของผมเป็น ผบ.ทหารสูงสุด กับตอนนี้สถานการ์เปลี่ยนไปแล้ว แต่คนที่ต่อต้านผม ก็มักจะเอาเรื่องนี้ มาโยงอยู่ตลอดเวลา
ส่วนเรื่องประมาณกองทัพปี 2562 ที่กระทรวงกลาโหมได้ ผบ.ทบ. ระบุว่า นักการเมืองส่วนใหญ่พยายามจะวิจารณ์งบทหาร โดยไม่รับผิดชอบ แต่เราไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เพราะเกิดความขัดแย้งขึ้นทั่วโลก ดังนั้นแต่ละประเทศก็ต้องเตรียมในเรื่องการปกป้องประเทศ
ทั้งนี้ย้ำว่า ทหารพร้อมที่จะทำงานกับรัฐบาลใดก็ได้ที่จะขึ้นมาคุมอำนาจ หลังการเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 ตามรัฐธรรมนูญ เพราะหากรัฐบาลสั่งกองทัพให้ทำอะไร แต่ถ้ากองทัพไม่ทำก็ถือว่าขัดกฎหมาย
นอกจากนี้ ผบ.ทบ. เปิดเผยกับ Straits Times ถึงการแนะนำให้ฟังเพลงหนักแผ่นดิน ซึ่งเป็นเพลงยุค 6 ต.ค.2519 นั้น ว่า หนักแผ่นดินนั้นตนไม่ต้องการเจาะจงไปว่าใคร แต่เพลงนี้ เป็นเพลงที่ดี สะท้อนว่ามีคนที่พยายามจะทำให้เกืดความสับสนวุ่นวาย ความขัดแย้งขึ้นในชาติ ทั้งๆที่เราเป็นคนไทยด้วยกัน ทำไมเราไม่รักกันล่ะ ทำไมต้องทำให้คนไทยเกลียดกันเอง