รัฐบาลสั่งตั้งคณะกรรมการ3ฝ่ายหาทางออก4โครงการน้ำภาคใต้

รัฐบาล สั่ง ตั้งคณะกก.3 ฝ่าย ดูผลกระทบสร้างเขื่อนวังหีบ-เขื่อนคลองสังข์ โครงการผันน้ำบรรเทาอุทกภัยเมืองนคร ประตูน้ำปากประ ศึกษาใหม่ใน 6 เดือน-1ปี

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มาชี้แจงกับประชาชนเครือข่ายปกป้องดินน้ำป่า จ.นครศรีธรรม - จ.พัทลุง ที่เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกโครงการเขื่อนวังหีบ เขื่อนคลองสังข์ และโครงการบรรเทาอุทกภัยนครศรีธรรมราช และโครงการประตูระบายน้ำปากประพัทลุงที่ชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากพูดคุยทางออกร่วมกันและได้ยุติที่จะชะลอทั้ง4 โครงการไว้ก่อน ตามที่นายกรัฐมนตรีรับทราบและได้สั่งการให้มาช่วยกันหาทางออกของปัญหา และให้ชะลดโครงการและตั้งกรรมการทำงานร่วมกันให้ได้ข้อยุติใน 6เดือนหรือ 1 ปี

โดยนายพุทธิพงษ์ ได้มอบหนังสือบันทึกข้อตกลง 6 ข้อระหว่างภาครัฐและประชาชนผู้เดือดร้อนจากการก่อสร้าง และกล่าวว่าให้ยุติการก่อสร้างและชะลอโครงการไว้ทั้งหมดตั้งแต่วันที่1 ก.พ.2562 เป็นต้นไปจนกว่าจะได้ข้อสรุปจากคณะกรรมการร่วมกัน 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาผลกระทบอย่างรอบด้านก่อน ดังนั้นต้องหยุดการก่อสร้างไว้ก่อน ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี มีความเป็นกังวลว่าชาวบ้านเดือดร้อน นอนไม่หลับ จึงให้หาข้อสรุปร่วมกัน

"อันไหนไม่มีประโยชน์ ถอยได้ยกเลิกได้ แต่ต้องมีเหตุผล ทั้งนี้ที่เห็นตรงกันในเรื่องสภาพอากาศธรรมชาติเปลี่ยนไปมาก จะต้องรองรับภัยธรรมชาติที่จะมาถึง ขอให้ช่วยไปบอกชาวบ้านในพื้นที่ รัฐบาลไม่รังแกใครแม้แต่คนเดียว ให้ไปคุยกันใหม่ ขอให้เป็นประชาชนเกี่ยวข้องโครงการคำนึงถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ลูกหลานในอนาคตไม่ว่าผลออกมาอย่างไร พี่น้องต้องมีส่วนร่วม อยากให้กลับไปพักผ่อน กลับใต้วันนี้คงไม่ทัน ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานหาที่พักเหมาะสม ซึ่งพรุ่งนี้ค่อยเดินทางกลับบ้านโดยปลอดภัย"นายพุทธิพงษ์กล่าว

นายจักรพันธ์ พรหมมงคล แกนนำฯ กล่าวว่าจะถอยคนละก้าวระหว่างชาวบ้านกับกรมชลประทาน ที่ได้มาเจรจากันต่อเนื่องตั้งแต่วันที่25 ม.ค.จนมีข้อสรุปร่วมกัน เป็นข่าวดีพี่น้อง2จังหวัด ผลการหารือ นับจากนาทีนี้เป็นสัญญาประชาคม กรมชลฯ ใจกว้างพอยุติเรื่องราวที่ดำเนินการมา5ปีที่ผ่านมา คืนนี้จะเป็นคืนแรก ที่พี่น้องสองจังหวัดได้นอนหลับสนิท โดยหลังจากที่มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี จนขณะนี้ได้ข้อยุติในเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ให้ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่ายมีกรมชลฯ ตัวแทนจากชาวบ้านทุกพื้นที่ และนักวิชาการที่เป็นกลาง มาร่วมกันศึกษาแนวทางการจัดการน้ำทั้งหมดของภาคใต้ เพื่อให้ข้อขัดแย้งยุติ ใน4โครงการ จึงมีเห็นความเห็นตรงกัน

โดยกรมชลฯจะชะลอการก่อสร้างไว้ก่อนจนกว่าคณะกรรมการฯ จะศึกษาเสร็จสิ้น ทั้งการเวนคืน การประมูลงานโครงการ ต้องหยุดทั้งหมด และมาร่วมกันศึกษาทางวิชาการ ทางอุตุนิยมวิทยา หลักการชลประทาน หลักภูมิสังคม ที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดไม่ทำลายระบบนิเวศ และไม่ทำร้ายประชาชน

คณะกรรมการชุดนี้ มีทางเลือกจัดการน้ำในทุกกรณี อาจไม่ใช่สร้างเขื่อน ต้องเปรียบเทียบทางเลือกอื่น ปรับเปลี่ยนรูปแบบ การตัดสินใจ ต้องเลือกถึงคำนึงถึงความเดือดร้อนประชาชน โดยศึกษาผลกระทบครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบของกรมชลฯและส่วนราชการเกี่ยวด้วย แม้วันนี้ประกาศยุติการชุมนุม แต่เรื่องนี้ยังไม่จบถ้าไม่เป็นตามข้อตกลง ชาวบ้านภาคใต้จะมากันมากกว่านี้ ขอให้ทุกภาคส่วนรักษาสัญญาไว้ ชะลอโครงการ ทั้งกระบวนการไล่รื้อ ชะลอไว้1 ปี