รังสิมันต์ มองการเลือกตั้งจะสกปรก-แต่ช่วยทำให้ชาติดีขึ้น

รังสิมันต์ โรม มองการเลือกตั้ง 24 มี.ค.จะสกปรกแต่จะช่วยแก้ไขให้ประเทศดีขึ้นได้บ้างและ คสช.ไม่มีอำนาจเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.  นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และนักกิจกรรมการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ว่า เป็นเวลา 5 ปีกว่าที่คนไทยได้ใช้สิทธิครั้งล่าสุด นับเป็นเวลาที่นานมากทีเดียว กว่าคนไทยจะได้มีโอกาสเลือกตั้งกันอีกครั้ง การเลือกตั้งที่จะนี้น่าจะทำให้หลายคนเห็นถึงคุณค่าของมัน ผมคิดว่าตลอดเวลาที่ผมและเพื่อนทำแคมเปญคนอยากเลือกตั้ง ความอยากเลือกตั้งเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย คงอยู่ในอณูของคนไทยหลายคนแล้ว ซึ่งความสำเร็จนี้ ไม่ได้เกิดจากกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ออกมาทำกิจกรรมเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นสภาวะบ้านเมืองที่ล้มเหลวในทุกด้านที่ คสช.ทำขึ้น อันเป็นผลทำให้ประชาชนมองเห็นว่าประเทศชาติกำลังถอยหลังอย่างรวดเร็วนี้เองด้วย ที่ได้ทำให้ความรู้สึกของคนไทยต้องการความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และคงไม่ปล่อยผ่านการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้แน่

เมื่อพูดถึงความเปลี่ยน คำถามหนึ่งที่ผมมักได้รับ คือ เราจะทำมันได้จริงเหรอ เพราะหลายคนคงรู้ว่า กลไกจำนวนมากที่ถูกวางเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ อาจจะทำให้ประเทศไทยกลับมาเดินซ้ำย่ำรอยเดิม ไม่ไปไหนก็ได้

เพื่อตอบคำถามนี้ ตัวผมมองว่า เราต่างก็รู้ดีว่า การเลือกตั้ง 24 มี.ค.มีแนวโน้มที่สกปรกที่สุดและเมื่อผ่านด่านการเลือกตั้งไปแล้วสภาพการที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง ก็ยังมีขวากหนามจำนวนมากรออยู่ แต่ผมเชื่อว่าลึกๆแล้วทุกคนต่างมีความเชื่อบางประการว่า อย่างน้อยการเลือกตั้งนี้จะช่วยแก้ไขให้ประเทศไทยดีขึ้นได้บ้าง อย่างน้อยน่าจะทำ คสช.ตกกระป๋องไปชั่วขณะหรือไม่มีอำนาจที่แข็งแรงเหมือนเดิมเพื่อให้พรรคการเมืองเข้าไปจัดการโครงสร้างปัญหาที่ไม่ยอมให้ประชาชนเข้ามาเป็นเจ้าของประเทศ ซึ่งการจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็จำเป็นต้องแก้ปัญหาหลายเรื่องไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียใหม่ ล้างมรดก คสช.ตลอดจนการปฏิรูปกองทัพเพื่อให้ไม่สามารถกลับมาทำรัฐประหาร และพาประเทศไทยเข้าสู่วงจรอุบาทว์ได้อีกต่อไป

ผมไม่รู้หรอกว่า ถึงที่สุดแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ สุดท้ายเราจะทำมันได้มากน้อยแค่ไหน มันอาจจะต้องใช้เวลามากหน่อย แต่ก็หวังว่าการแก้ไขเพื่อป้องกันการรัฐประหาร ขโมยอำนาจไปจากประชาชน จะสามารถเริ่มทำได้เสียทีผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้ ให้สมกับที่ประชาชนรอคอยการเลือกตั้งมาเป็นเวลาที่นานขนาดนี้