posttoday

"เสรีพิศุทธ์" แจ้งเอาผิด 4 รัฐมนตรี ดูดสส.ร่วมพลังประชารัฐ

23 มกราคม 2562

"เสรีพิศุทธ์" เข้าแจ้งความต่อตำรวจ ปคม. เอาผิด 4 รัฐมนตรีพลังประชารัฐ ฐานดูดอดีตส.ส.เข้าพรรค มั่นใจมีเลือกตั้งแน่นอน

"เสรีพิศุทธ์" เข้าแจ้งความต่อตำรวจ ปคม. เอาผิด 4 รัฐมนตรีพลังประชารัฐ ฐานดูดอดีตส.ส.เข้าพรรค มั่นใจมีเลือกตั้งแน่นอน

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถ.แจ้งวัฒนะพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร. และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เดินทางไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีกับ 4 รัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและผู้บริหารพรรค ในข้อหา "ค้ามนุษย์ และฟอกเงิน"

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดได้ที่ปรากฎเป็นข่าว ใน กรณีการซื้อขาย กักขังหน่วงเหนี่ยวว่าที่ผู้สมัคร สส. โดยใช้เงินซื้อบุคคลต่างๆในพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เป็นอดีต สส. อาทิ การดูดอดีต สส. จากพรรคเพื่อไทย 40 คน พรรคประชาธิปัตย์ 20 คน และพรรคการเมืองอื่นๆให้รวมมาอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐ ประกอบกับหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคก็แถลงยอมรับในการดึงนักการเมืองจากพรรคอื่นๆ รวมทั้งเตรียมยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนและพิจารณาว่าพรรคพลังประชารัฐกระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 30 ในกรณีเสนอให้หรือสัญญาจะให้ทรัพย์สินทางตรง ทางอ้อม เพื่อจงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นสมาชิกพรรค หรือไม่

ด้านพล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้ ซึ่งต้องขอตรวจสอบพยานหลักฐานเอกสารที่ผู้กล่าวหา เนื่องจากมีข้อกฎกมายเกี่ยวข้องหลายเรื่อง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

วันเดียวกัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผ่านนายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการ กกต. เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนและพิจารณาพรรคพลังประชารัฐ กระทำความผิดต่อพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 30 กรณีพรรคพลังประชารัฐ รวมถึง 4 รัฐมนตรี ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดกฎหมายการค้ามนุษย์และฟอกเงิน

“การกระทำของพรรคพลังประชารัฐและกรรมการบริหารพรรคเข้าข่ายการค้ามนุษย์โดยมีการรวบรวมหลักฐานเอกสารตามที่สื่อมวลชนรายงานข่าว มามอบให้ กกต.เพื่อดำเนินการสืบสวนว่าเข่าข่ายความผิดตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 30 หรือไม่”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ชี้แจงรายละเอียดคุณสมบัติของพรรคการเมืองที่สามารถส่งผู้สมัครได้นั้น ส่วนตัวยืนยันว่า พรรค มีคุณสมบัติครบและส่งผู้สมัครทั้ง 350 เขต ดังนั้น ยืนยันว่าพรรคดำเนินการส่งตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ และมองว่าการชี้แจงของนายแสวง ไม่รอบคอบตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อนออกมาให้ข่าว ทำให้คนอื่นเสียหาย หากเป็นข้าราชการตำรวจ ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนไปแล้ว

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า เมื่อพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งออกแล้ว ส่วนตัวมั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งแน่นอนและอยู่ภายในระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งตอนนี้ทั้งพรรคการเมืองและประชาชนต่างก็อยากจะเลือกตั้ง เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลเผด็จการมาเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย