posttoday

"คำนูณ"เผยกม.ปฏิรูปตำรวจเน้นโอนภารกิจที่ไม่ใช่งานหลักออกไป

24 เมษายน 2561

คำนูณ เผย กฎหมายปฏิรูปตำรวจจะถ่ายโอนภารกิจที่ไม่ใช่งานตำรวจโดยแท้ออกไป ให้ท้องถิ่นทำจราจรแทน

คำนูณ เผย กฎหมายปฏิรูปตำรวจจะถ่ายโอนภารกิจที่ไม่ใช่งานตำรวจโดยแท้ออกไป ให้ท้องถิ่นทำจราจรแทน

นายคำนูณ สิทธิสมาน กรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฯเมื่อวันที่ 23 เม.ย.มีข้อสรุปพื้่นฐานว่า จะเน้นการถ่ายโอนภารกิจที่ไม่ใช่งานของตำรวจโดยแท้เป็นหลัก เพราะเห็นว่าแก่นแท้ของงานตำรวจคือการรักษาความสงบเรียบร้อย การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม การนำบุคคลที่กระทำความผิดทางอาญามาสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นงานหลักที่ต้องรักษาไว้

นายคำนูณ กล่าวว่า ส่วนงานที่นอกเหนือไปจากนี้ที่มีลักษณะเป็นงานบริการประชาชน งานทะเบียน งานจัดระเบียบอื่น ๆ อาทิ งานจราจร ถือเป็นงานรอง สมควรถ่ายโอนภารกิจให้หน่วยงานอื่นได้กระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายโอนภารกิจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมเพื่อให้องค์กรตำรวจกระชับขึ้น และกำลังพลที่มีอยู่สามารถรองรับงานหลักได้เต็มที่ ภายใต้เงื่อนไข 2 ประการ 1. ต้องไม่สร้างความกระทบกระเทือนให้แก่ประชาชน และ 2. ต้องไม่สร้างภาระแก่งบประมาณแผ่นดินมากเกินไป

"การถ่ายโอนภารกิจในความหมายนี้จึงไม่ใช่การถ่ายโอนงานสอบสวนคดีอาญาบางประเภทที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางไปให้หน่วยงานอื่นที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านนั้นและปัจจุบันทำงานทางด้านสืบสวนและมีอำนาจจับกุมอยู่แล้วทำแทนทั้งหมด เพราะจะทำให้เกิดหน่วยงานสอบสวนขึ้นใหม่อีกเป็นจำนวนมากอยู่ต่างสังกัดกัน เพราะจะเป็นการสร้างปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก หากทำเช่นนั้นอาจเป็นการสร้างนรกให้กับประชาชนหรือทำให้ประชาชนประสบสภาวะหนีเสือประจระเข้ เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างสูง" นายคำนูณ กล่าว

นายคำนูณ กล่าวว่า ทั้งนี้ งานสอบสวนคดีอาญาที่ต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาจยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นได้โดยกำหนดให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในแต่ละด้านนั้นมาเป็นที่ปรึกษาหรือผู้ช่วยของพนักงานสอบสวน

นายคำนูณ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน การลดจำนวนของความผิดที่มีโทษทางอาญาที่มีอยู่ในกฎหมายฉบับต่าง ๆ ได้รับการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 77 และบรรจุอยู่ในแผนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายอยู่แล้ว โดยจะมีการยกเลิกโทษทางอาญาสำหรับความผิดที่ไม่ร้ายแรง หรือให้มีการเปลี่ยนโทษปรับทางอาญาเป็นโทษปรับทางปกครองแทน ซึ่งเมื่อกระทำสำเร็จก็จะเป็นการลดภารกิจที่ไม่จำเป็นของตำรวจไปด้วยอีกทางหนึ่ง เมื่อรู้ภารกิจหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการพิจารณากำหนดโครงสร้างองค์กร