posttoday

"อักษรา" เผยกลุ่มผู้เห็นต่างพร้อมกำหนดเซฟตี้โซนหลังพระราชพิธี

30 กันยายน 2560

หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผย กลุ่มผู้เห็นต่าง ยินดีที่จะคุย เพื่อกำหนดพื้นที่ปลอดภัย หลังไทยจบงานพระราชพิธี วอนทุกฝ่ายอย่าเชื่อมโยง เหตุรุนแรงใต้ กับผลการพูดคุยฯ

หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้  เผย กลุ่มผู้เห็นต่าง ยินดีที่จะคุย เพื่อกำหนดพื้นที่ปลอดภัย หลังไทยจบงานพระราชพิธี วอนทุกฝ่ายอย่าเชื่อมโยง เหตุรุนแรงใต้ กับผลการพูดคุยฯ

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.พล.อ. อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้สำเร็จ ว่า จำเป็นต้องดำเนินการให้ครบถ้วนทั้งในระดับยุทธศาสตร์ ยุทธการ และยุทธวิธี โดยในระดับยุทธศาสตร์ รัฐบาลมีเป้าหมายชัดเจน คือ การปฏิเสธการก่อการร้าย และใช้แนวทางสันติวิธี ผ่านกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ จึงได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากประชาคมโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยูเอ็น , โอไอซี และองค์กรสิทธิมนุษยชนสากล เพื่อโดดเดี่ยวกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จากการสนับสนุนทั้งปวงไม่ว่าจะมาจากภายนอกประเทศ หรือจากประชาชนในพื้นที่ก็ตาม

พล.อ.อักษรา กล่าวว่า ในระดับยุทธการ คือการควบคุมพื้นที่ คุมทรัพยากรและคุมประชาชน โดยการคุมพื้นที่นั้น จำเป็นต้องแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น ชุมชนเขตเมือง ชนบทป่าเขา และพื้นที่ชายแดน เพื่อจัดวางกำลัง พลเรือน ตำรวจ ทหาร อย่างเหมาะสมกับขีดความสามารถ ของกำลังแต่ละประเภท และใช้เทคโนโลยี รวมทั้งงานมวลชนเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุ โดยระดับยุทธการนั้นงานมวลชนมีความสำคัญสูงสุดคือ ต้องให้ประชาชนในพื้นที่ประกาศอย่างชัดเจน 3 ประการว่า 1.ไม่ยอมรับการก่อการร้าย 2.ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และ 3.ไม่เอาโจร ไม่ว่าจะมาจากการเมืองท้องถิ่น,อิทธิพลผลประโยชน์. ยาเสพติด และกระบวนการผิดกฎหมายต่างๆ

ส่วนในระดับยุทธวิธี พล.อ.อักษรา อธิบายว่า เป็นการชิงไหวชิงพริบระหว่างหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้เห็นต่างสุดโต่ง โดยการนำบทเรียนจากความผิดพลาดมาซ้อนกลผู้ก่อเหตุ และกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธให้หมดสิ้นไป ด้วยการใช้เทคโนโลยีและการปฏิบัติทางยุทธวิธีที่เหนือกว่าเอาชนะฝ่ายตรงข้าม

พล.อ.อักษรา กล่าวต่อว่า เนื่องจากในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีสื่อมวลชน และนักวิเคราะห์บางท่าน ได้พยายามเชื่อมโยงเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอ้างว่าเป็นผลมาจากการพูดคุยเพื่อสันติสุข จนสร้างความสับสนให้ผู้อำนวยความสะดวก และสร้างความหวาดระแวงให้กับขบวนการผู้เห็นต่าง ดังนั้น หัวหน้าผู้แทนพิเศษรัฐบาล จึงได้มอบหมายให้คณะพูดคุยฯ เดินทางไปสร้างความเข้าใจกับผู้อำนวยความสะดวก ผ่านไปยังกลุ่มผู้เห็นต่าง เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรีที่ยังคงดำรงความต่อเนื่องของการพูดคุย ซึ่งเป็นงานยุทธศาสตร์ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการจัดสร้างพื้นที่ปลอดภัย อันเป็นความหวังของประชาชนที่จะเข้ามามีส่วนร่วม ในการกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่อไป และจากการประสานในขั้นต้นทราบว่า กลุ่มผู้เห็นต่างมีความพร้อมและยินดีที่จะร่วมมือ เพื่อกำหนดพื้นที่ปลอดภัยในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งจะเกิดขึ้น ภายหลังเสร็จงานพระราชพิธีแล้ว

“ดังนั้นผมจึงใคร่ขอให้นักวิเคราะห์ และสื่อมวลชนทั้งหลายได้กรุณานำเสนอบทวิเคราะห์ในเชิงสร้างสรรค์ โดยไม่นำผลการปฏิบัติทางยุทธวิธี มากล่าวโทษว่าเกิดจากความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์และให้การสนับสนุนแนวทางสันติวิธีของรัฐบาล ซึ่งเท่ากับเป็นการปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ ทำให้ผู้ก่อเหตุขาดความชอบธรรม และต้องยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน เพื่อลดการสูญเสียนั่นเอง” พล.อ.อักษรา กล่าว