ไล่บี้เก็บภาษีทักษิณ

สตง.ชี้ช่องกรมสรรพากรยังใช้มาตรา 61 เก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านได้

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า หากกรมสรรพากรไม่ดำเนินการเรียกเก็บภาษีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท จากการขายหุ้นบริษัท
ชิน คอร์ปอเรชั่น ให้บริษัท เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ มูลค่า 7.3 หมื่นล้านบาท ทาง สตง.จะเรียกมาชี้แจงเหตุผลและจะพิจารณาส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดทางอาญา

นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ถือว่าหมดอายุความ 10 ปี เพราะกำหนดระยะเวลาการเรียกเก็บภาษีของคดีมีไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.ที่จะถึงนี้ ดังนั้นทางกรมสรรพากรยังสามารถใช้ช่องทางตามประมวลรัษฎากร มาตรา 61 เพื่อดำเนินการเก็บภาษีได้ เนื่องจากคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ชี้ชัดไว้แล้ว

“หากกรมสรรพากรไม่ดำเนินการก็จะเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะอ้างเพียงมาตรา 19 ว่าต้องออกหมายเรียกภายใน 5 ปีไม่ได้ เพราะยังมีช่องตามมาตรา 61 ฉะนั้นกรมสรรพากรต้องไปดำเนินการ สตง.ไม่จำเป็นจะต้องสอนตำรวจไปจับผู้ร้าย” นายพิศิษฐ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากกรมสรรพากรได้ยืนยันว่าไม่สามารถเรียกเก็บภาษีจากการซื้อขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ได้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกตัวแทนกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล แต่กลับไม่มีการแถลงรายละเอียดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวกับนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง นายสมชัย ตอบว่า “มันจบแล้ว” ส่วน นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ปิดโทรศัพท์ไม่สามารถติดต่อได้