posttoday

เรื่องของไข่

20 กรกฎาคม 2553

ความจริงจะไม่พูดถึงเรื่องไข่ไก่ เพราะรู้สึกว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะห่วงใยปัญหาไข่เสียจริง และคงไม่ผิดหรอก เนื่องจากรัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลปัญหาทุกข์สุขของประชาชน

ความจริงจะไม่พูดถึงเรื่องไข่ไก่ เพราะรู้สึกว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะห่วงใยปัญหาไข่เสียจริง และคงไม่ผิดหรอก เนื่องจากรัฐบาลมีหน้าที่ต้องดูแลปัญหาทุกข์สุขของประชาชน

แต่สิ่งที่ต้องคิดก็คือ ไข่แพงใครได้ประโยชน์

แน่นอน  ต้องยอมรับความจริงว่าผู้ที่เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่สุดในประเทศไม่พ้นบริษัทธุรกิจการเกษตรขนาดใหญ่ แต่ลืมว่ายังมีผู้เลี้ยงไก่ไข่ที่เป็นสหกรณ์ เป็นผู้เลี้ยงรายกลางรวมอยู่ด้วย
ภาพสะท้อนของการเลี้ยงไก่ไข่ เหมือนกับวงการปศุสัตว์อื่นๆไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงหมู กุ้ง ฯลฯ ต้องใหญ่ถึงจะอยู่รอด

สาเหตุเนื่องจากราคาสินค้าเกษตรผันผวน การที่มีทุนหนา ต้นทุนการเลี้ยงที่ต่ำ จึงเป็นปัจจัยสำคัญ

วงการปศุสัตว์มักเกิดปัญหาราคาตกต่ำเมื่อมีการเลี้ยงมากเกิน สิ่งที่ตามมาก็คือการทำลายพ่อแม่พันธุ์ตัดวงจรการผลิต หลังจากนั้นราคาก็จะกลับเข้าสู่เสถียรภาพ และจะดีดกลับไปในระดับที่สูง
มันเป็นอย่างนี้มาเนิ่นนาน

คณะกรรมการไก่ไข่ หรือที่เรียกว่า คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ จึงเกิดขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีพ.ศ. 2549 เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ ด้วยการควบคุมปริมาณการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่

การตั้งคณะกรรมการไก่ไข่ ก็ใช่ว่าจะทำให้ราคาไข่ไก่มีเสถียรภาพทันตาเห็น โดยสะท้อนจากเดิมมีผู้นำเข้าแม่พันธุ์ 1314 ราย แต่เมื่อภาวะราคาไข่ผันผวนก็เหลืออยู่เพียง 9 ราย ขณะเดียวกันราคาไข่ไก่เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ก็ไม่ได้สูงอย่างที่เป็นในขณะนี้

แต่ในเมื่อรัฐบาลตัดสินใจเปิดนำเข้าพันธุ์ไก่ไข่เสรี สิ่งที่จะตามมาก็คือเร่งนำเข้าอย่างแน่นอน และสุดท้ายไม่แคล้วราคาจะต้องตกต่ำ

การสร้างเสถียรภาพด้านราคาจึงจะไม่ประสบผลสำเร็จ

ในแง่การตัดสินใจเชิงนโยบาย รัฐบาลจำเป็นต้องอธิบายให้ชัดเจนว่าอาศัยปัจจัยใดเป็นพื้นฐาน หรือใช้เฉพาะราคาไข่ในขณะนี้?

และควรจะมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเสริมด้วยหรือไม่ อาทิ ราคาไข่เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ราคาต้นทุนการผลิต การสร้างเสถียรภาพในสินค้าเกษตร การป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาด ฯลฯ
ถ้ากลไกของรัฐก่อให้เกิดปัญหา ทำให้ราคาแพงผิดปกติ ก็ถูกต้องแล้วที่จะเข้าไปจัดการ แต่หากเป็นเพราะกลไกตลาดก็ต้องคิดดีๆ

ทั้งหมดเพื่อจัดสรรประโยชน์ระยะยาวระหว่างผู้บริโภค เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ และบริษัทธุรกิจการเกษตรขนาดใหญ่

ถ้าวางน้ำหนักไม่ดี มันก็ไม่เป็นธรรม จะกลายเป็นสองมาตรฐาน สามมาตรฐาน เหมือนปัญหาการเมืองที่ยุ่งเหยิงอยู่ในขณะนี้

ไข่  ไปๆ มาๆ มันเลยทำท่าวุ่นวายไม่รู้จบ