สนช.อนุญาต "สมศักดิ์" เพิ่มพยานสู้คดีถอดถอน
ที่ประชุมสนช.อนุญาต "สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล" เพิ่มพยานสู้คดีถอดถอนกรณีสร้างบ้าน แถลงเปิดสำนวนคดี 29 ต.ค.
ที่ประชุมสนช.อนุญาต "สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล" เพิ่มพยานสู้คดีถอดถอนกรณีสร้างบ้าน แถลงเปิดสำนวนคดี 29 ต.ค.
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ได้พิจารณาดำเนินกระบวนการถอดถอนนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ประกอบมาตรา 56 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
นายพรเพชรแจ้งว่า ได้กำหนดวันแถลงเปิดสำนวนคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ผู้กล่าวหา และนายสมศักดิ์ ผู้ถูกกล่าวหา ในวันที่ 29 ต.ค. เวลา 10.00 น. และให้สมาชิกสนช.ยื่นญัตติประเด็นซักถามทั้งผู้กล่าวหาและผู้ถูกกล่าวหาภายในวันที่ 30 ต.ค. เวลา 12.00 น.
จากนั้น เข้าสู่การพิจารณาคำขอเพิ่มเติมพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหา โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้ขอเพิ่มพยานหลักฐานเพื่อปะกอบการพิจารณา 1 คำขอ 7 รายการ โดยรายการที่ 1 และ 2 เป็นประเด็นที่เกี่ยวกับหลักฐานที่เกี่ยวกับภาพถ่ายทางอากาศ และการสำรวจภูมิประเทศ รวมทั้งแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ
ทั้งนี้ เนื่องจากได้อ่านสำนวนของ ป.ป.ช. แล้วพบว่า ไม่มีในส่วนนี้ ซึ่งจะทำให้เห็นว่าบ้านหลังดังกล่าวได้มาอย่างไร และภาพถ่ายเป็นภาพที่ขอมาจากกรมแผนที่ทหารที่เป็นผู้จัดทำขึ้น ส่วนเอกสารพยานหลักฐานในรายการ 3 – 6 เป็นการสอบปากคำของผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการฝ่ายข้าราชการในขณะนั้น พบว่า ในขณะนั้น คือ อธิบดี 3 กรมใหญ่ คือ กรมสามัญศึกษา สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ และกรมอาชีวศึกษา
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ขอเพิ่มพยานหลักฐานในส่วนนี้ เนื่องจากทั้ง 3 กรมเป็นกรมใหญ่มีงบประมาณสูงจึงเป็นเป้าสายตาของประชาชน และพบว่าป.ป.ช.ไม่ได้เชิญบุคคลเหล่านี้ให้ปากคำ ส่วนรายการที่ 7 คือการให้ปากคำของ พ.ต.ท.ก้องกาญจน ฉันทปรีดา สถาปนิกผู้ออกแบบบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากยังขาดรายละเอียดว่าบ้านหลังดังกล่าวก่อสร้างเสร็จเมื่อไหร่ ซึ่งคำให้การของพ.ต.ท.ก้องกาญจน จะชัดเจนว่าได้บ้านหลังดังกล่าวมาก่อนเป็นรัฐมนตรีหรือหลังเป็นรัฐมนตรี อีกทั้งคำวินิจฉัยของป.ป.ช.เป็นการอนุมานว่าระยะเวลาในการก่อสร้างคือเมื่อใด
ด้าน นายณรงค์ รัฐอมฤต คณะกรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับพยานหลักฐานในรายการที่ 1-6 ทาง ป.ป.ช. เห็นว่าเป็นเอกสารที่อยู่นอกเหนือการไต่สวนของป.ป.ช. และทางสนช.ควรที่จะยึดสำนวนของป.ป.ช.เป็นหลัก ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหา ไม่เคยอ้างให้ป.ป.ช.ไปสอบ แม้ป.ป.ช.จะให้โอกาสนำพยานหลักฐานมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาถึง 17 ครั้งก็ตาม ส่วนรายการที่ 7 เกี่ยวกับสถาปนิกนั้น ที่ผ่านมาได้สอบสวนพยานปากนี้ตามขั้นตอนแล้ว จึงไม่ขัดข้องที่จะให้เพิ่มพยานในส่วนนี้ได้
จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติการเพิ่มพยานหลักฐาน โดยเห็นชอบให้นายสมศักดิ์ เพิ่มพยานในรายการที่ 1-2 ด้วยคะแนน 90 ต่อ 70 งดออกเสียง 6 และ รายการที่ 7ด้วยคะแนน 123 ต่อ 39 งดออกเสียง 5 และไม่เห็นชอบให้เพิ่มพยานในรายการที่ 3-6 ด้วยคะแนน 79 ต่อ 84 งดออกเสียง 4