posttoday

สุเทพยื่นคำขาดนายกฯคืนอำนาจประชาชนใน2วัน

01 ธันวาคม 2556

"สุเทพ"เผยพบยิ่งลักษณ์พร้อมผู้นำเหล่าทัพ ยื่นคำขาดให้นายกฯคืนอำนาจประชาชนใน 2 วัน เปิดทางตั้งสภาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งใหม่

"สุเทพ"เผยพบยิ่งลักษณ์พร้อมผู้นำเหล่าทัพ ยื่นคำขาดให้นายกฯคืนอำนาจประชาชนใน 2 วัน เปิดทางตั้งสภาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งใหม่

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. เวลา 21.30น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) แถลงว่า เวลานี้มีเรื่องที่ขออนุญาตกราบเรียนต่อประชาชน และ ข้าราชการทุกหมู่เหล่าเพื่อประกอบการตัดสินใจของข้าราชการทั้งหลาย โดยเมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมาได้พบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ และ กองทัพอากาศ

นายสุเทพ กล่าวว่า การพบกันครั้งนี้ไม่ได้มีการเจรจาต่อรองใด ผมได้เรียนต่อหน้านายกฯว่าผมไม่ได้รับมอบหมายจากประชาชนให้มาเจรจากับรัฐบาล เพียงแต่มาบอกกับนายกฯว่าบัดนี้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้ลุกขึ้นแสดงความเป็นเจ้าของประเทศไทยได้ประกาศตัวทวงคืนประเทศไทยจากระบอบทักษิณ และผมได้บอกกับนายกฯว่ารัฐบาลของนายกฯหมดความชอบธรรมตั้งแต่วันที่ประกาศไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลปฎิเสธที่จะปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญจึงเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศอีกต่อไป

“ประชาชนได้ปฎิเสธอำนาจการบริหารประเทศของรัฐบาลแล้วในวันนี้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และผมได้บอกกับนายกฯว่าประชาชนมีความประสงค์จะใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชนที่จะเป็นประชาธิปไตยทางตรงที่มีเจตนารมณ์แน่วแน่ว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง และถ้านายกฯยอมฟังเสียงประชาชและส่งมอบอำนาจโดยดี เราจะปฎิบัติต่อนายกฯด้วยความเป็นสุภาพชนเพราะพวกเราทั้งหลายล้วนเป็นพลเมืองดีทั้งสิ้น” นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า เหตุที่ประชาชนทั้งหลายได้พร้อมใจประกาศตนเข้ามาจัดการบริหารด้วยมือของตนเองเพราะประชาชนไม่สามารถอดทนต่อระบอบทักษิณได้อีกต่อไป จึงขอให้คุณยิ่งลักษณ์ได้ฟังเสียงประชาชนและยอมที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชน  ทั้งนี้ประชาชนไม่พึงพอใจที่จะให้มีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ และไม่พอใจแค่ยุบสภาหรือลาออก แต่ประสงค์ที่จะเข้ามาดำเนินการด้วยอำนาจของประชาชนเพื่อให้ประเทศไทยได้เปลี่ยนเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นการบอกกับนายกฯและผู้นำเหล่าทัพอย่างซึ่งหน้าและชัดเจนที่สุด

“ผมได้บอกกับนายกฯต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพว่ามวลมหาประชาชนลุกขึ้นกระทำการครั้งนี้เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญและประเทศ ไม่ใช่เพื่อพรรคการเมืองหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งบุคคลใด ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องของประชาชนจนกว่าประชาชนจะได้จัดตั้งสภาประชาชนและรัฐบาลของประชาชน เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ปฎิรูปบ้านเมืองให้เรียบร้อยจากนั้นจะคืนอำนาจให้เป็นการตัดสินตามกระบวนการประชาธิปไตย ส่วนพรรคการเมืองใดจะลงเลือกตั้งก็ได้แต่จะต้องเป็นหลังจากเมื่อบ้านเมืองได้รับจัดการเรียบร้อยตามที่ผมได้บอกตามนี้”นายสุเทพ กล่าว

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ผมได้แจ้งให้นายกฯทราบว่าทางออกของประเทศมีอย่างเดียว คือ ให้ประชาชนเข้ามามีอำนาจในการจัดการประเทศตามเจตนารมณ์ของประชาชนโดยรวมที่ลุกขึ้นในคราวนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น และสิ่งที่ประชาชนได้ดำเนินการมาและจะดำเนินการต่อไปจะต้องเสร็จสิ้นเรียบร้อยภายใน 2 วันนี้ โดยประชาชนจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะมีอำนาจในการบริหารจัดการเต็มที่ตามประชาชนได้กำหนดเท่านั้น ซึ่งนายกฯไม่ได้ตอบข้อที่ผมได้กราบเรียนไปแต่อย่างใดทั้งสิ้น

“ผมถือว่าได้ตัวแทนของประชาชนบอกเจตนารมณ์ต่อนายกฯแล้ว และบอกกับนายกฯว่าจะไม่มีการพบกันอีกจนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน ผมได้บอกว่ากับนายกฯว่ามวลมหาประชาชนกระทำการครั้งนี้จะยึดหลักสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ จะใช้วิธีการอหิงสา ไม่ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรก็ตามและเราก็ไม่กลัวรัฐบาล ผมได้แจ้งให้คุณยิ่งลักษณ์ทราบว่าหากรัฐบาลใช้ความรุนแรงกับประชาชนแบบที่ทำกับนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เราจะไม่ยอมและจะลุกฮือทั้งประเทศ และผมได้บอกว่าถ้าคิดจะจับกุมผมก็จะมีประชาชนอีกหลายสิบล้านลุกชึ้นมาทำแทนผมจนกว่าจะบรรลุผลตามเจตนารมณ์ของประชาชน” นายสุเทพ กล่าว

เลขาธิการกปปส. กล่าวอีกว่า ให้นายกฯยิ่งลักษณ์ได้พึงตระหนักว่าประชาชนทั้งประเทศไม่อดทนอีกต่อไป ไม่มีเวลาให้รัฐบาลเจรจาด้วยประการใดๆทั้งสิ้น นี่ไม่ใช่เงือนไขหรือการต่อรอง แต่เป็นเจตนารมณ์ของคนไทยที่ไม่ยอมให้มีระบอบทักษิณอีกต่อไปแล้ว

“ที่ผมตัดสินใจไปพบกับคุณยิ่งลักษณ์เพราะเป็นพบกันต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้ง 3 เหล่าทัพ ไม่มีความลับแต่เป็นเรื่องที่จะบอกว่าประชาชนคิดอย่างไรเท่านั้นเอง ผมจะไม่ขอพูดถึงรายละเอียดของการพูดจาตอบโต้ แต่เรียนให้ประชาชนได้ทราบว่าที่ผมในฐานะตัวแทนของประชาชนได้ประกาศจุดยืนของมวลมหาประชาชนต่อหน้าผู้บัญชาการเหล่าทัพอย่างตรงไปตรงมา”เลขาธิการกปปส.กล่าว

นายสุเทพ ระบุอีกว่า ผมได้บอกว่ากับนายกฯอีกว่าสำหรับตำรวจถ้าไม่ทำร้ายประชาชน เราก็พร้อมอ้าแขนต้อนรับเพราะตำรวจก็เป็นข้าราชการของประชาชนเช่นเดียวกัน และผมได้บอกนายกฯว่าที่วันนี้ต้องล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพราะไม่ต้องการให้ตำรวจออกมาทำร้ายประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำโดยชอบตามประเพณีนิยมและการอารยะขัดขืน

“ในการพบกันคราวนี้เพราะผู้บัญชาการเหล่าทัพได้แสดงเจตนาชัดเจนแล้วว่ากองทัพยืนอยู่ข้างประเทศไทย ท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้พูดต่อหน้าผู้บัญชการเหล่าทัพและนายกฯว่ากองทัพไม่ต้องการเห็นประชาชนบาดเจ็บล้มตายเพราะกองทัพยืนอยู่ข้างประเทศไทย ผมได้เรียนกับผู้บัญชาการเหล่าทัพว่าเรามีเจตนาว่ากสนทำงานครั้งนี้เพื่อประเทศไทย และจะยึดหลักสันติ ไม่บีบบังคับข้าราชการใดๆทิ้งสิ้น แต่ให้ใช้ดุลยพินิจยืนอยู่ข้างประชาชน ฉะนั้น ขอกราบเรียนไปถึงประชาชนว่าเราจะเดินหน้าปฎิบัติการของเราต่อไป” นายสุเทพ กล่าว

เลขาธิการกปปส. กล่าวว่า เรียนไปถึงข้าราชการทุกกรมกองตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปต้องหยุดการปฎิบัติการและไม่รับใช้ระบอบทักษิณอีกต่อไปและต้องมายืนอยู่ข้างประชาชน ผมขอบอกถึงพี่น้องที่อยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาลขอให้มีความอดทนอโดยต้องไม่แสดงอาการรุนแรงใดๆทั้งสิ้นรวมทั้งพี่น้องรอบๆทำเนียบรัฐบาล ผมได้บอกนายกฯว่าเรารู้ดีว่าการกระทำการเหล่านี้และล่วงล้ำเข้าไปเป็นความจำเป็น และเราพร้อมรับการถูกดำเนินคดีโดยจะไม่หลีกเลี่ยง

“โอกาสนี้เท่านั้นที่น่าจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้พ้นจากระบอบทักษิณ  เมื่อรัฐล้มเหลวที่จะบริหารราชการ จึงเป็นความชอบธรรมที่ประชาชนจะเข้ามาจัดการเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้ข้าราชการต้องหยุดงานโดยพร้อมเพรียงกัน ประชาชนรอการตัดสินในของท่านในวันพรุ่งนี้ ขอย้ำว่ารัฐบาลนี้หมดความชอบธรรมทางกฎหมายแล้ว และประชาชนได้แสดงตนเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ”นายสุเทพกล่าว