posttoday

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

02 มิถุนายน 2556

กลุ่มหน้ากากขาวรวมตัวลานเซ็นทรัลเวิล์ด แสดงพลังต่อต้านระบอบทักษิณ ขณะที่ฝ่ายหน้ากากแดงชุมนุมค้าน "มาร์ค"แนะรัฐบาลเลี่ยงขัดแย้ง

กลุ่มหน้ากากขาวรวมตัวลานเซ็นทรัลเวิล์ด แสดงพลังต่อต้านระบอบทักษิณ ขณะที่ฝ่ายหน้ากากแดงชุมนุมค้าน "มาร์ค"แนะรัฐบาลเลี่ยงขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. กลุ่มผู้ชุมนุมในนาม V For Thailand จำนวนกว่า 1,000 คน ได้เดินทางมาชุมนุมที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนที่จะเดินขบวนไป สิ้นสุดที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพ เพื่อแสดงพลังต่อต้านระบอบทักษิณ โดย โดยประชาชนที่เดินทางมาร่วมชุมนุมต่างสวมหน้ากาก"กายฟอว์กส์" พร้อมชูป้ายแสดงเนื้อหาโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมในนาม"อุลตร้าแดง แดงสยิว"จำนวน 20 คนได้สวมใส่หน้ากากสีแดง มาชุมนุมที่หน้าสถานีรถไฟฟ้าสยาม เพื่อต่อต้านการชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาว 

ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้ระบุว่า การรวมตัวครั้งนี้ก็เพื่อต่อต้านกลุ่มที่ใช้หน้ากากสีขาว เพราะในยุโรปมีความหมายถึงการล้มล้างการปกครองและสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร และยืนยันว่ากลุ่มหน้ากากแดงไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รวมทั้งไม่มีเป้าหมายปกป้องรัฐบาลแต่อย่างใด โดยหลังจากนี้กลุ่มหน้ากากแดงจะดำเนินการคู่ขนานกันไป จนกว่าจะมีการยกเลิกใช้สัญลักษณ์หน้ากากขาว 

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันร้องเพลงชาติก่อนจะสลายตัวกันในเวลา 18.00น.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผย รู้สึกเป็นห่วงทั้งกลุ่มหน้ากากขาว และหน้ากากแดง และเห็นว่าดีที่สุดคือรัฐบาลควรหลีกเลี่ยงในการนำเอาทุกเรื่องที่เป็นปมความขัดแย้งออกไป และหันมาใส่ใจกับการแก้ปัญหาให้ประชาชนในขณะนี้ จะทำให้ความขัดแย้งลดลง ไม่สุ่มเสี่ยงต่อการที่จะเกิดการปะทะกัน หรือความรุนแรงขึ้นดังนั้น ขอเรียกร้องไปยังทุกกลุ่มว่าการแสดงออกใด ๆ ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย  

ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาว ถือเป็นการแสดงความเห็นทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายโดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่การออกมาแสดงความเห็นก็ไม่ควรบิดเบือนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก หากมีการนำความจริงไปบิดเบือนพรรคต้องรักษาสิทธิ์ทางการกฎหมายด้วยการร้องเอาผิดกับคนที่เอาความจริงไปบิดเบือน

ขณะที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า กระแสการต่อสู้ทางการเมืองที่เข้มข้นในสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีรเดีย โดยเฉพาะกรณีหน้ากากขาวและหน้ากากแดง ที่เริ่มเดินออกจากชุมชนออนไลน์ลงสู่ถนนทั้ง 2 ฝ่าย นั้น ในช่วงนี้ยังไม่น่าห่วงเท่าไหร่นัก เพราะต่างสร้างพื้นที่ของตัวเอง เพื่อชิงนิยาม ให้ความหมายและรณรงค์ทางสังคมเพื่อหาแนวร่วม

แต่ที่น่าเป็นห่วงคือจุดที่อาจเผชิญหน้ากันได้ จนถึงขั้นถอดหน้ากากใช้ความรุนแรงกันนั้น จะเป็นช่วงเปิดสภาสมัยสามัญ เพราะมีเรื่องที่เป็นเผือกร้อนหลายเรื่องทั้ง ร่าง พรบ.ปรองดอง นิรโทษกรรม เงินกู้ 2 ล้านฯ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ทั้งนี้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะต้องระมัดระวังไม่เติมเชื้อไฟความขัดแย้งจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งหน้ากากแดงเพื่อมาเผชิญหน้ากับหน้ากากขาวนั้น ยิ่งไปตอกย้ำความแตกแยกระหว่างมือตบ กับตีนตบที่มีมาก่อนหน้านี้

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ

 

ม็อบหน้ากากขาวชุมนุมต้านระบอบทักษิณ