posttoday

มาร์คขู่ดีเอสไอตั้งธงการเมืองระวังเจอโทษหนัก

17 มกราคม 2556

“อภิสิทธิ์” ยังไม่ได้กำหนดวันยื่นฟ้อง“ธาริต” เตือนตั้งธงทางการเมือง ระวังโดนโทษสถานหนัก เข้าข่ายผิดม.157-ม.200

“อภิสิทธิ์” ยังไม่ได้กำหนดวันยื่นฟ้อง“ธาริต”  เตือนตั้งธงทางการเมือง ระวังโดนโทษสถานหนัก เข้าข่ายผิดม.157-ม.200

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ยังไมได้กำหนดวันในการเดินทางไปยื่นเรื่องต่อศาลอาญาเพื่อดำเนินคดีกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมพวกรวม 4 คน แต่ได้ประชุมกับทีมกฎหมายพรรคเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยได้มีการศึกษาคำฟ้องเรียบร้อยแล้ว และอาจมีการปรับปรุงถ้อยคำบ้างเล็กน้อย เพราะเป็นเรื่องธุรการ

ส่วนประเด็นที่มองว่านายธาริตดำเนินการผิดนั้น ที่ชัดเจน คือ 1.เป็นการจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงที่นายธาริต และพนักงานสอบสวนทราบดี จากการที่เคยทำสำนวน แต่กลับมาเขียนในเหตุการณ์เดียวกันเป็นคนละเรื่องในการบรรยายแจ้งข้อกล่าวหาตนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองนายกฯ และผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) 

2.นายธาริตฐานะหนึ่งในศอฉ.ทราบดีถึงสถานการณ์ในโครงสร้างและความรับผิดชอบทางกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งไม่ได้นำเรื่องนี้มาพิจารณาประกอบ และ 3.จงใจที่เลี่ยงแจ้งข้อหาตนในฐานะเจ้าพนักงาน เพื่อดึงอำนาจสอบสวนไว้ ทั้งที่ความจริงเรื่องนี้ จะต้องไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของนายธาริต ผิดมาตรา 157 และมาตรา 200 ของรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ยังเข้าข่ายผิดมาตรา 309  ดังนั้น เอาแค่ผิด 2 มาตราข้างตนก่อน และจะจำกัดเฉพาะผู้ที่ลงนามในการแจ้งข้อกล่าวหาที่เบื้องต้นระบุไว้ 4 คน เพราะการกระทำครั้งนี้เป็นการใช้สิทธิที่มี และหากดีเอสไอยังยืนยันที่จะทำอย่างนี้อีก ก็จะต้องเจออีกหลายคดี โดยบุคคล 4 คน ที่จะแจ้งความก็จะโดนข้อหาเดียวกันหมด รวมทั้ง พนักงานสอบสวนที่ทำไม่ชอบด้วยกฎหมายก็จะโดนหลายคดีด้วยเช่นกัน

“อยากจะเตือนไว้ถ้าคิดว่ามีธงทางการเมือง หรือการสั่งการมา แล้วไม่ยึดหลักทางกฎหมาย สุดท้ายคนสั่งก็จะไม่มารับผิดชอบ คนทำก็จะโดนกันหมด และเป็นเรื่องที่ต้องรอดูท่าทีต่อไป แต่อย่างน้อย มีหนึ่งเรื่องในการเรียกม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเป็นหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ จากเดิมที่กำหนดในวันที่ 18 ม.ค. ก็ดูมีท่าทีที่สอดคล้องกับความเป็นจริงหรือสิ่งที่ตัวเองทำมากขึ้น แต่ก็ยังติดใจเรื่องการเชิญไปให้ถ้อยคำแบบพร่ำเพรื่อเร่งรีบต่างที่เคยคุยกับผมในวันที่เดินทางไปพบดีเอสไอ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หมายความว่าก่อนหน้านั้นได้คุยกับดีเอสไอก่อนมีการเชิญม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไปให้ถ้อยคำหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ อยู่ดีๆก็มีหนังสือมาขอเลื่อนการให้ถ้อยคำ ทางตัวอธิบดีดีเอสไออาจจะไม่ทราบในเรื่องการออกหนังสือมาเชิญครั้งแรก และไม่ทราบว่าตัวหัวหน้าพนักงานได้ใช้แนวทางแบบนี้ เมื่อทราบจึงมีหนังสือมาเพื่อเลื่อน แต่กรณีอื่นๆยังไม่ชัดเจน ซึ่งตนไม่เข้าใจ และเดิมได้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความจงใจที่จะสร้างประเด็นทางการเมืองเกี่ยวกับตนและตัวผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.

เมื่อถามย้ำว่า ตรงนี้เป็นบรรทัดฐานของดีเอสไอจัดการฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง เช่น วิธีการดำเนินการ การส่งแฟ็กซ์จดหมายมาเชิญทุกวันพฤหัสแล้วให้ไปให้การวันจันทร์ อังคาร โดยเฉพาะในสมัยประชุมวันพฤหัส ซึ่งวันดังกล่าวสส.จะต้องลงพื้นที่ตอนค่ำ โดยจัดว่าเป็นอุปสรรค และหากยังใช้วิธีแบบนี้ไปเรื่อยๆ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า วันที่ตนไปดีเอสไอ ก็ได้พูดคุยกับอธิบดีและหัวหน้าพนักงานสอบสวนไว้แล้ว พวกตนยินดีให้ความร่วมมือ แม้บางเรื่องไม่มีมูล แต่ขอให้ทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ส่งหนังสือมาแล้วยังไม่ทราบเลยว่าจะเรียกไปสอบถามเรื่องอะไร ไปแล้ว 2 อาทิตย์ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป ขอเอกสารไม่สมเหตุสมผล บางตัวดีเอสไอมีอยู่แล้ว สามารถค้นหาได้ อย่างไรก็ดี ภายในวันที่ 18 ม.ค. ตนจะส่งหนังสือไปอีกฉบับถึงอธิบดีดีเอสไอ ว่าให้ความร่วมมือกับการสอบอย่างเต็มที่