posttoday

ยุทธศาสตร์ปั่นกระแส”โกงเลือกตั้ง”

04 เมษายน 2562

ครั้งนี้ เขามุ่งที่จะใช้ “พรรคการเมืองหนึ่ง”เป็น “เครื่องมือ”ในการกระตุ้นคนหนุ่มสาวให้ลุกขึ้นมาต่อต้าน เพราะพรรคนี้มีขีดความสามารถสูงผ่านสื่อโซเชียล

“หลายคนตั้งคำถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยและพรรคแนวร่วมได้คะแนนสูงสุดและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมีการปล่อยข่าวว่ามีการโกงเลือกตั้งหรือไม่”

********************

โดย ภุมรัตน์  ทักษาดิพงษ์   อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

แม้ว่าการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 เสร็จสิ้นไปแล้ว ประชาชนพอจะรู้แล้วว่าพรรคใดได้ที่นั่งมากน้อยเพียงใด พรรคใดจะจับมือกันตั้งรัฐบาล พรรคใดจะเป็นฝ่ายค้าน แม้คะแนนสรุปสุดท้ายยังไม่ออกมาก็ตาม โดยทั่วไป เมื่อมีการเลือกตั้งแล้ว บ้านเมืองก็น่าจะสงบเรียบร้อย และเดินไปสู่รัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง เศรษฐกิจบ้านเมืองจะก้าวหน้า คนจะมาลงทุนมากขึ้น ต่างประเทศที่เคยตั้งแง่ว่ารัฐบาล คสช.ยังไม่เป็นประชาธิปไตยเพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง คราวนี้ก็จะได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ปกติ กันเสียที

อย่างไรก็ดี สถานการณ์บนผิวน้ำดูเหมือนสงบราบเรียบ แต่กลับมีคลื่นใต้น้ำอยู่ตลอดเวลา เพราะ “คนทางไกล” ได้ปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์ตลอดเวลาเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองโดยไม่คำนึงว่าประเทศจะเสียหายมากน้อยเพียงใด หลังจากที่ “ภาพจำลองดีที่สุด” ที่คิดไว้ผิดพลาดจาก “ปรากฎการณ์ 8 กุมภาพันธ์” ก็ต้องงัดแผนสำรองออกมา คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคแนวร่วมทั้งหลายได้คะแนนมากที่สุดเพื่อจัดตั้งรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีที่ตนเองควบคุมสั่งการได้ เพื่อใช้ “ต่อรอง” ในเรื่องต่าง ๆ ที่เป็น “ผลประโยชน์สำคัญยิ่ง” ของเขา

คนที่สนใจติดตามข่าวสารด้านการเมืองและบ้านเมือง “การสังเกตการณ์” ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องมี สิ่งที่เราสังเกตและถูกนำมาประมวลเข้าด้วยกันอาจบอกแนวโน้มและทิศทางที่จะเกิดขึ้นได้ ทำให้เราอ่านสถานการณ์ออก แม้ไม่ถูกทั้งหมดแต่ก็ไม่ผิดนัก ทำให้เราสามารถวางแผนป้องกันและแก้ไขให้เสียหายน้อยที่สุดได้

ท่านสังเกตหรือไม่ว่า ทำไมจึงมีการปล่อยข่าวจากฮ่องกงว่ามีการโกงการเลือกตั้งตั้งแต่การเลือกตั้งยังไม่สิ้นสุด อาทิ การให้สัมภาษณ์ บี.บี.ซี.ว่ามีการโกงเลือกตั้ง มีการส่งบทความไปลงในนิวยอร์คไทม์กล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้ง ฝรั่งที่อ่านบทความนี้ย่อมเคลิบเคลิ้มและเห็นด้วยว่าการเลือกตั้งในเมืองไทยคงเต็มไปด้วยการโกงกันมโหฬาร จากนั้น มีการให้สัมภาษณ์สื่ออื่นอีก สถานทูตตะวันตกบางแห่งใน กทม. ที่สนับสนุนนักการเมืองคนนี้ตลอดมาได้ออกแถลงการณ์สอดรับกัน เพราะหากพรรคนี้ได้เป็นรัฐบาล ข้อตกลงผลประโยชน์เชืงยุทธศาสตร์ที่จะได้ก็ง่ายขึ้น

หลายคนตั้งคำถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยและพรรคแนวร่วมได้คะแนนสูงสุดและเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะมีการปล่อยข่าวว่ามีการโกงเลือกตั้งหรือไม่


นี่เป็นยุทธศาสตร์การ “ปั่นกระแส”และสร้าง “อารมณ์”ของคนโดยพยายามใช้ “ โกงการเลือกตั้งแบบปี 2500” เป็นต้นแบบ ที่นิสิตนักศึกษาประชาชนออกมาชุมนุมคัดค้านรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงครามและ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ที่โกงการเลือกตั้ง แต่คนที่ปั่นกระแสคงไม่ต้องการให้จบแบบสันติแบบปี 2500 แต่หวังผลให้จบแบบ 14 ตุลา 16 มากกว่า ที่นิสิตนักศึกษาถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เพื่อขัดขวาง “การสืบทอดอำนาจของเผด็จการทหาร” ที่เป็นวลีที่สร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเท่ากับใช้ชีวิตของคนบริสุทธิ์เป็นเหยื่อเพื่อให้บรรลุซึ่งวัตถุประสงค์ทางการเมืองดังที่เคยทำมาแล้ว

บางคนอาจตั้งคำถามว่า “จินตนาการมากไปหรือเปล่า”ก็ขอย้อนกลับมาเรื่อง “การสังเกต” อีกครั้งหนึ่ง เมื่อทางฮ่องกงพูดการเลือกตั้งครั้งนี้เปรียบเสมือน “ โกงการเลือกตั้งปี 2500” ปรากฏว่า แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน (ข่าวของหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับ) ได้ออกมาขานรับโดยแสดงความห่วงใยและชี้นำว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คล้ายกับโกงการเลือกตั้งปี 2500 และขอให้ดูสื่อออนไลน์ “เดอะ สแตนดาร์ด”ที่เล่นข่าววันครบรอบการจัดตั้งหนังสือพิมพ์ “เดลีนิวส์” เมื่อ 28 มีนาคม 2592 โดยเอาภาพข่าวที่นิสิตนักศึกษาออกมาในท้องถนนเพื่อต่อต้านการโกงการเลือกตั้งปี 2500 คล้ายกับจะสื่อถึงนิสิตนักศึกษาขณะนี้ให้ออกมาแบบปี 2500 รวมทั้งมีสื่อออนไลน์ของคนบางกลุ่มเล่นเรื่องนี้ด้วย

ครั้งนี้ เขามุ่งที่จะใช้ “พรรคการเมืองหนึ่ง”เป็น “เครื่องมือ”ในการกระตุ้นคนหนุ่มสาวให้ลุกขึ้นมาต่อต้าน เพราะพรรคนี้มีขีดความสามารถสูงผ่านสื่อโซเชียล ที่สามารถระดมคนได้นับหมื่นนับแสนได้ในเวลารวดเร็วจากการที่เคยติด “แฮชแท็ก”จนติดอันดับหนึ่งมาหลายครั้ง คนวางแผนมีวิธีการยั่วยุให้ฝ่ายทหารใช้ความรุนแรง โดยใช้ชีวิตของคนหนุ่มสาวที่บริสุทธิ์เป็นเหยื่อ ดังนั้น คนหนุ่มสาวต้องมี “สติ” และ “ปัญญา” พิจารณาอย่างรอบคอบ พรรคคนหนุ่มสาวซึ่งได้ที่นั่งจากการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างท่วมท้นต้องไม่ตกเป็น “เหยื่อ”ของแผนชั่วร้ายนี้ ในเมื่อประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ให้พรรคเป็นตัวแทนในการทำให้นโยบายที่เสนอต่อประชาชนระหว่างการหาเสียงให้บรรลุผลผ่านทางกระบวนการรัฐสภา

ขอให้สังเกตต่อไปว่า การที่ผู้บัญชาการทหารสูงและผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ ผบ.ตร.ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณะชนพร้อม ๆ กัน โดย ผบ.ทสส.เป็นผู้แถลงถึงเหตุการณ์บ้านเมือง ต่อมา นายกรัฐมนตรีได้มีสาส์นถึงประชาชนเป็นกรณีพิเศษ ตามด้วยผู้บัญชาการทหารบก ไม่ใช่เป็นเรื่อง บังเอิญ ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงจริง ๆ ท่านทั้งหลายคงไม่ออกมา สิ่งที่นายทหารใหญ่ได้ทำแสดงว่า เป็นการส่งสัญญานไปยังคนที่คิดไม่ดีกับชาติบ้านว่า รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ และจงอย่าทำอะไรอย่างที่คิด กองทัพพร้อมที่จะปกป้องเอกราช อธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงของชาติอย่างเต็มที่

เมื่อประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ของตนผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว ประชาชนก็หวังว่า บ้านเมืองจะสงบสุข ไม่มีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น ใครที่คิดและทำไม่ดีต่อบ้านเมือง จะได้รับการประณามและต่อต้านจากประชาชนจนถึงที่สุด ขณะเดียวกัน ประชาชนก็ต้องไม่ตกเป็น “เหยื่อ”ทางการเมืองของคนที่คิดไม่ดีกับบ้านเมือง