posttoday

ยกเครื่องประชาสัมพันธ์ เร่งปั๊มคะแนนนิยม 'บิ๊กตู่'

26 ตุลาคม 2561

ทิศทางการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มปรับเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ หลังประกาศต่อสาธารณะ "สนใจงานด้านการเมือง"

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ทิศทางการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เริ่มปรับเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ หลังประกาศต่อสาธารณะ "สนใจงานด้านการเมือง" ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญกับการ เดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งในปี 2562

คู่ขนานไปกับการเร่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ด้วยเป้าหมายการผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย เพื่อสานภารกิจที่ได้เริ่มต้นเดินหน้าไว้ให้สำเร็จถึง เป้าหมายตามที่มุ่งหวัง

งานสำคัญเวลานี้หนีไม่พ้นเรื่องการเร่งประชาสัมพันธ์ นำเสนอผลงานตลอด 4 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล คสช. ว่าได้ทำสิ่งใดมาแล้วอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนไปแล้วบ้าง

โดยเฉพาะโครงการประชารัฐอันถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงของรัฐบาล คสช. ที่อัดเม็ดเงินลงพื้นที่ และบรรดาสารพัดโครงการเอาใจผู้มีรายได้น้อยทั้งหลายแหล่ อันจะเป็นการซื้อใจรากหญ้าที่ให้เห็นถึงคุณูปการการเข้ามาบริหาร

ทว่า "จุดอ่อน" สำคัญคือเรื่องปัญหาการสื่อสารไปถึงประชาชนที่ยังยึดติดกรอบข้าราชการไม่ทันเทคโนโลยีจนไม่อาจเข้าถึงประชาชนอย่างที่ต้องการ

รวมถึงต้องเร่งปรับภาพลักษณ์บุคลิกอันดุดันแบบนิสัยชายชาติทหาร ไม่ยอมใคร ซึ่งอาจจะใช้ได้ในฐานะหัวหน้าคสช. หรือผู้นำรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่จำเป็นต้องง้อขอคะแนนเสียงชาวบ้าน

หากย้อนพิจารณาดูการเปลี่ยนแปลงจะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ลดโทนความดุดัน และระมัดระวังคำพูดคำจา ในช่วงการให้สัมภาษณ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนลงไปพอสมควร

ต่อเนื่องด้วยการรุกพื้นที่โซเชียล มีเดียเพื่อปรับภาพลักษณ์และนำเสนอความเป็นตัวเองในมุมที่ไม่ดุดัน เหมือนที่ผ่านมา ทั้งการเปิดเฟซบุ๊ก "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" อินสตาแกรม "Prayut Chan-o-cha" และทวิตเตอร์ "Prayut Chan-o-cha"

"จากการที่พวกเราส่วนใหญ่นิยมสื่อสารกันผ่าน Facebook อยู่เป็นประจำ จึงถือโอกาสเปิด Facebook ส่วนตัวของผม เพื่อใช้เป็นอีกช่องทางในการสื่อสารแนวนโยบาย การทำงานของผมและรัฐบาล รวมถึงเล่าสู่กันฟังถึงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ และเป็นช่องทางที่ผมและพี่น้องประชาชนจะเข้าถึงกันได้ดียิ่งขึ้น หากท่านมีข้อ เสนอแนะ ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือต้องการให้ผมลงไปดูแลแก้ปัญหา ก็สามารถเขียนเข้ามาเล่าสู่กันฟังได้ เพื่อที่ผมและทีมงานจะได้มีข้อมูลและดูแลช่วยเหลือได้โดยตรงครับ"

ต่อเนื่องด้วยการขยับเปลี่ยนตัว  พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มารับหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ซึ่งจะไปปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เพียงตำแหน่งเดียว

ในฐานะที่พุทธิพงษ์ถูกวางตัวให้มาดูแลรับผิดชอบงานด้านการสื่อสารของรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งวางกรอบการสื่อสารถึงประชาชนในรูปแบบใหม่ โดยจะเป็นกิจกรรมที่นายกฯ อยากสะท้อนถึงประชาชนในวิธีการที่เรียบง่าย สบายๆ ไม่เครียดเกินไป

"นายกฯ อยากสื่อสารกับประชาชนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ที่ไม่ใช่ รูปแบบการแถลงผลงาน ไม่เป็นหลักการมากเกินไป แต่เป็นในแง่ของความห่วงใย หรือสิ่งที่นายกฯ อยากพูด มุมมองที่ประชาชนอาจยังไม่เข้าถึง รวมถึงกิจกรรมของนายกฯ ที่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน"

แต่หากมองลึกๆ แล้วการเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล จาก พล.ท.สรรเสริญ ย่อมถือเป็นอีกความพยายามที่ต้องลดโทนปรับภาพทหารและ คสช.ออกจากรัฐบาล เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง

อีกทั้งช่วงเวลาต่อจากนี้ทิศทางการเมืองจะเริ่มเข้มข้นมากขึ้น ทั้งใน รูปแบบที่ต้องคอยชี้แจง ตอบคำถามสื่อมวลชน ในประเด็นที่คาบเกี่ยวกับเงื่อนปมการเมือง ทั้งกระแสดูด การเคลื่อนไหวที่เกี่ยวพันไปถึงพรรคพลังประชารัฐ หรือเรื่องอื่นๆ ยังไม่รวมถึงบรรดาข่าวปล่อย กระแสโจมตี ที่จะหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น จำเป็นต้องได้คนการเมืองที่พอจะคุ้นเคยมาเป็นปากเสียงคอยชี้แจง ทำความเข้าใจอย่างทันท่วงที

ยังไม่รวมกับการเปิดเกมรุก ชิงจังหวะเรียกคะแนนในโอกาสที่ เหมาะสม ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุ่มเสี่ยง อันจะมีผลกระทบไปถึงคะแนนเสียงในอนาคต