มทภ.1เร่งสอบ"ยิ่งลักษณ์"หลบหนีขออย่าด่วนสรุป

แม่ทัพภาคที่ 1  เร่งสอบเส้นทาง"ยิ่งลักษณ์" หลบหนี ขออย่าด่วนสรุป วอนสื่ออย่าตีความเอง ขออย่าโยงเหตุระเบิดตู้ เอทีเอ็มซ.กรุงเทพกรีฑาเป็นการเมือง

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีมีการระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้เส้นทาง จ.สระแก้ว   ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองกำลังบูรพากองทัพภาคที่ 1  ในการหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว สร้างความเสียหายแก่รัฐกว่า 5  แสนล้านบาท ว่า เป็นไปตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก และ ตำรวจ ได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งทางฝ่ายทหารได้ให้ข้อมูลไปหมดทุกอย่าง แต่เหตุการณ์ใดที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระเบิด หรือเส้นทางหลบหนี  แหล่งข่าวจะมาจากหลายหน่วยงาน  เมื่อหลายหน่วยงานเข้ามา จะต้องมีการประมวลภาพข่าวภาพ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่า ควรไปในทิศทางไหน  ไม่ใช่สื่อมวลชนไปตีความเอง

ทั้งนี้  หลังจากรวบรวมข่าวสารแล้ว ต้องมาปฏิบัติการด้านข่าวกรองอีกครั้ง  ทั้งฝ่ายตำรวจและฝ่ายความมั่นคง เพราะบางอย่างยังด่วนสรุปไม่ได้ ดังนั้น ขอให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน เก็บข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่เร่งรีบจับกุม โดยจะเห็นได้ว่า ระยะหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรอบคอบมากขึ้น ในการติดตามคดีต่างๆ ก่อนที่จะสรุป  ไม่เช่นนั้นตำรวจก็โดนกล่าวหาว่าจับแพะ จับแกะ จับอะไร  ขอให้ใจเย็น  เมื่อการประมวลข่าวเรียบร้อยแล้ว ในไม่ช้าทุกคนก็จะได้ทราบข้อเท็จจริง

แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึง เหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม บริเวณหน้าเทสโก้ โลตัส ซอยกรุงเทพกรีฑา 35  ว่า จากการรายงานของตำรวจ  เชื่อว่าเป็นระเบิดจริง  แต่ต้องดูเจตนาว่าทำเพื่ออะไร  ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด และว่า  ปกติการก่อเหตุที่ตู้เอทีเอ็ม มักจะเป็นลักษณะของการปล้น

พล.ท.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลฝ่ายข่าวกรองและของตำรวจขณะนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานไปก่อนเมื่อรายงานผลมาตนก็จะนำผลไปรายงาน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกและก็คงจะรายงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรวมถึงนายกรัฐมนตรีต่อไป ทุกอย่างยืนยันว่าอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นอะไร หรือไปโยงว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองคงยังไม่ใช่