วัยไหนๆ ก็ห่างไกลสิว
สิว...สิว..สิว คำนี้แค่ได้ยินก็อยากหลีกหนีไปให้ไกลๆ
สิว...สิว..สิว คำนี้แค่ได้ยินก็อยากหลีกหนีไปให้ไกลๆ
โดย.. ปวศร พิทักษ์
สิว...สิว..สิว คำนี้แค่ได้ยินก็อยากหลีกหนีไปให้ไกลๆ ยิ่งถ้าสิวย้ายสำมะโนครัวมาอยู่บนใบหน้าด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง!!!!! อยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน...
สิว เป็นโรคผิวหนังที่พบได้มากที่สุดในโลก และมีผู้คนนับล้านๆ ที่ประสบกับปัญหาสิว โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นประมาณ 90% จะพบกับปัญหาสิวไปตลอดช่วงวัยรุ่น แม้แต่ผู้ใหญ่หลายคนก็มีปัญหาสิวเช่นกัน โดย 50% ของผู้หญิงมีสิวขึ้นในบางบริเวณอย่างสม่ำเสมอ และ 25% ของคนทั่วไปมีปัญหาสิวเรื้อรัง และต้องอดทนกับปัญหาเป็นสิบๆ ปีหากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง
จากข้อมูลสำรวจพบว่าคนไทยส่วนใหญ่กว่า 80% มักพบกับปัญหาสิว และผิวหน้ามัน ซึ่งเกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย ต่อมสร้างไขมันมีการสร้างไขมันมากเกินไป ประกอบกับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่กระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น รวมถึงสภาพอากาศร้อนของเมืองไทยซึ่งทำให้เหงื่อออกง่าย ทำให้เกิดการคั่งค้างของสิ่งสกปรกและไขมันอุดตันอยู่ในรูขุมขนจนเป็นสิว และมีปัญหาผิวรูปแบบต่างๆ ตามมามากมายได้
เริ่มเป็นสิว
ผู้เชี่ยวชาญการดูแลผิวหน้าบอกว่า ตั้งแต่เกิดผิวของคุณจะเริ่มกระบวนการผลัดเซลล์ผิว และผลิตน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ กระบวนการนี้อาจจะแปรปรวนเนื่องจากสมดุลฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งปัญหาสิวนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อมีความมันส่วนเกิน และเซลล์ผิวเสื่อมสภาพมาถมรวมกันจนไปอุดตันรูขุมขน หลังจากนั้นเชื้อแบคทีเรียก็จะเจริญเติบโต และนำมาซึ่งอาการบวม อักเสบ และมีปัญหาสิวที่ตามมานั่นเอง
โดยปกติปัญหาสิวมักจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวัยแรกรุ่น และมักจะเป็นต่อเนื่องไปอีก 5-10 ปี อย่างไรก็ตาม ปัญหาสิวก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในคนวัย 20 ปลายๆ หรือแม้แต่วัย 30 หรือแม้กระทั่งเกิน 30 ปีไปแล้วก็มี ซึ่งตามสถิติพบว่าประมาณ 25% ของวัยรุ่นที่เป็นสิวจะยังคงเป็นสิวอยู่จนกระทั่งพวกเขาอายุ 25 ปีเลยทีเดียว
บางคนอาจเริ่มเป็นสิวครั้งแรกในวัยผู้ใหญ่ โดยมากมักจะเป็นเพศหญิง และเป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจุบันผู้หญิงในวัย 20-40 ปี จะเป็นสิวมากขึ้นกว่าในอดีต สาเหตุก็เนื่องมาจากความเครียดที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่มากขึ้นนั่นเอง
วิธีที่ดีที่สุดที่จะต่อสู้กับสิวในวัยรุ่นก็คือ การเน้นการดูแลรักษาความสะอาดของผิว และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับการดูแลผิว
สิวในวัยผู้ใหญ่
สิวในวัยผู้ใหญ่เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงอายุระหว่าง 20-30 ปี มากกว่า 50% ยังคงประสบปัญหาสิวอยู่ เพราะสิวนั้นเกิดจากการที่เซลล์ผิวเสื่อมสภาพที่ผลัดออกมาในแต่ละวัน และสิ่งสกปรกในอากาศรวมตัวกับไขมันส่วนเกินบนผิวจนเกิดความหนืดเข้าไปอุดตันรูขุมขน จนทำให้รูขุมขนอุดตัน มีแบคทีเรียจับตัวขึ้น เกิดเป็นสิว หรืออาจลุกลามจนเกิดอาการอักเสบ และติดเชื้อได้
นอกจากนั้น พันธุกรรมก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว เพราะเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนในร่างกายแต่ละคน ส่งผลให้การผลิตน้ำมันส่วนเกินของผิวออกมามากหรือน้อย รวมไปถึงความเครียด สภาพภูมิอากาศ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กับผิวก็ส่งผลกระทบต่อการผลิตไขมันของต่อมไขมันที่มากผิดปกติหรือน้อยเกินไปได้
วิธีที่ดีที่สุดที่จะต่อสู้กับสิวในวัยผู้ใหญ่ก็คือ การดูแลรักษาความสะอาดของผิว การปกป้องผิวจากแสงแดด หลีกเลี่ยงความเครียด การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายที่เหมาะสม รวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสิวโดยเฉพาะอย่างเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็สามารถควบคุมการเกิดสิวได้ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุเท่าใดก็ตาม
ทำไม 40-50 แล้วยังเป็นสิวอยู่
สิวเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือน (Perimenopause) และวัยหมดประจำเดือน (Menopause) เนื่องมาจากการหมดประจำเดือนตามธรรมชาติเกิดจากการที่รังไข่หยุดการทำงานสร้างฮอร์โมนเพศหญิง คือ เอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน ซึ่งเมื่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนเริ่มลดลง การเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะเกิดขึ้นกับร่างกาย รวมทั้งปัญหาสุขภาพผิว และการเกิดของสิว สิววัยผู้ใหญ่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนสามารถป้องกัน และรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสำหรับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะอย่างเป็นประจำ
วัยไหนๆ ก็ห่างไกลสิวได้
เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญการดูแลผิวหน้า โปรแอคทีฟ อินเตอร์เนชั่นแนล แนะนำว่า ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาสิวได้ โดยเคล็ดลับในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาสิว ก็คือ การป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาผิว ด้วยการหมั่นดูแลรักษาผิวหน้าให้สะอาดล้ำลึกในทุกๆ วัน เพราะหากผิวไม่สะอาดเพียงพอก็อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวได้
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าก็มีความสำคัญ ควรเลือกใช้ที่เหมาะกับสภาพผิว เน้นการดูแลปัญหาสิว และผิวมันโดยเฉพาะ ควรเลือกเป็นสูตร Oil Free และ Noncomedogenic ซึ่งจะช่วยควบคุมความมัน ปรับสมดุลของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ชะลอการอุดตันของรูขุมขน และช่วยดูแลปัญหาสิว รวมทั้งยังควรมีคุณสมบัติในการบำรุง และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าได้ดีอีกด้วย


