'ผมเปลี่ยนไปแล้ว' ริโอ เฟอร์ดินานด์
การปลด จอห์น เทอร์รี จากตำแหน่งกัปตันทีม
“สิงโตคำราม” อังกฤษ ของ ฟาบิโอ คาเปลโล ได้รับเสียงสนับสนุนเป็นอย่างดี แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีบางส่วนกังขากับความเหมาะสมของกัปตันคนใหม่อย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ผู้โด่งดังเรื่องข่าวด้านลบมาก่อน
ในการเริ่มต้นอาชีพกองหลังกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฟอร์ดินานด์ตกเป็นข่าวฉาวบนหน้าหนังสือพิมพ์ ทั้งเรื่องเทปเซ็กซ์กับเพื่อนร่วมทีม โดนข้อหาเมาแล้วขับ และติดโทษแบน 8 เดือนจากเหตุไม่ได้ไปตรวจสารกระตุ้นตามกำหนด
โทษแบนครั้งนั้น ทำให้เฟอร์ดินานด์พลาดลุยศึกยูโร 2004
6 ปีต่อมา เฟอร์ดินานด์ได้โอกาสนำทีมชาติอังกฤษลุยศึกเวิลด์คัพ เดือนมิ.ย.นี้ ที่แอฟริกาใต้ หลังจาก จอห์น เทอร์รี ถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังการถูกเปิดโปงความสัมพันธ์ลับๆ กับอดีตภรรยา เวย์น บริดจ์
“
ผมรู้ว่าผมต้องเปลี่ยนความคิดของผู้คนที่มีต่อผม” กองหลังวัย 31 ปี กล่าวแต่ไม่การันตีว่าจะไม่ทำผิดพลาดอีก
“
ผมอาจจะพลาดอีกในอนาคต แต่จะเป็นความผิดพลาดราคาแพงกว่าทุกครั้งในอดีตหรือไม่ ผมหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อตอนเพิ่งขึ้นมากับเวสต์แฮม ผมต้องใช้เวลาอยู่23 ปี ในการเป็นผู้ใหญ่พอที่จะมีความรับผิดชอบในฐานะนักเตะอาชีพ”อย่างไรก็ตาม กองหลังผีแดงคิดว่าตอนนี้เขารู้ซึ้งดีแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
“
ผมคิดว่าทุกคนต่างก็มีช่วงขึ้นและลงในอาชีพและชีวิตของพวกเขา สำคัญที่ว่าคุณจะผ่านมันไปได้อย่างไร”เฟอร์ดินานด์เติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมของความรุนแรงย่านเพ็กแฮม และรอดจากการเดินผิดทางมาเข้าสู่อะคาเดมีของเวสต์แฮม และเป็นนักเตะอาชีพเต็มตัวในปี 1996
ด้วยทักษะฟุตบอลที่ดี ทำให้เขากลายเป็นกองหลังอายุน้อยสุดที่ลงเล่นให้กับอังกฤษในปี 1997 ก่อนจะติดทีมเวิลด์คัพปี 1998 แต่ไม่ได้ลงเล่นในฝรั่งเศสและหลุดทีมยูโร 2000 ของ เควิน คีแกน
การย้ายจากเวสต์แฮมไปอยู่กับลีดส์ในปี 2000 และหนีห่างจากความวุ่นวายของชีวิตกลางคืนในลอนดอน ช่วยให้เขามีสมาธิกับฟุตบอลมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ข่าวในแง่ลบหายไป
เส้นทางอาชีพนักเตะก้าวหน้าขึ้นอีกเมื่อเขาย้ายมาร่วมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยสถิติกองหลังค่าตัวสูงสุดในเกาะอังกฤษในปี 2002 แต่ปีต่อมากลับถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ลงโทษแบน ข้อหาหลบเลี่ยงการตรวจสารกระตุ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากบทเรียนครั้งนั้น เฟอร์ดินานด์ได้เปลี่ยนตัวเองใหม่ โดยหันมาโฟกัสกับงานการกุศล และได้รับความไว้วางใจให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมทั้งในทีมผีแดงและทีมชาติครั้งแรกระหว่าง ฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือคนใหม่คัดเลือกกัปตันทีมในปี 2008 ก่อนที่เทอร์รีจะได้รับเกียรติสวมปลอกแขนในที่สุด
“
การเป็นกัปตันได้รับความสนใจมาก ผมคิดว่า คนคงคิดว่าผู้จัดการทีมทั้ง 2 คนของสโมสรและทีมชาติคงไม่ตั้งผมเป็นกัปตัน หากพวกเขาไม่ไว้วางใจผม หรือหากพวกเขาไม่คิดว่าผมมีความรับผิดชอบมากพอ นั่นจะทำให้คนเชื่อว่าผมเปลี่ยนไปแล้ว”จากภาพคนขี้เล่นที่เคยอำเพื่อนร่วมทีมออกทีวี รวมทั้งพยายามลักพาตัว เดวิด เบคแฮม กัปตันทีมอังกฤษในตอนนั้น ก่อนเวิลด์คัพเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนี้เขาหันมาใช้เวลาในการสัมภาษณ์นักกีฬาดังอย่าง อูเซน โบลต์ ลงนิตยสารออนไลต์ของเขา หรือไม่ก็ระดมเงินสร้างศูนย์เยาวชนในพื้นที่ลำบาก รวมถึงมูลนิธิ Live The Dream ของเขา
เส้นทางการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของเฟอร์ดินานด์ยิ่งจะสมบูรณ์แบบหากเขาได้เป็นกัปตันทีมคนแรกที่ชูถ้วยเวิลด์คัพนับตั้งแต่ปี 1966 จากฟอร์มน่าประทับใจภายใต้การคุมทีมของคาเปลโล และพลังความสามัคคีของทีมที่ต้องการจะก้าวผ่านปัญหากรณีเทอร์รี หลังอิตาลีเคยทำได้มาแล้วหลังจากอื้อฉาวเรื่องล้มบอลภายในประเทศ
นอกจากนี้ การแต่งตั้งเฟอร์ดินานด์ยังเป็นการก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นสำหรับวงการลูกหนังอังกฤษ ซึ่งเคยมีปัญหาเรื่องเหยียดผิว เมื่อเขาเป็นกัปตันทีมผิวสี (ที่ไม่ใช่ชั่วคราว) คนแรกของอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม เฟอร์ดินานด์ยังมีความท้าทายใหญ่สุด นั่นคือ การรักษาความฟิตสำหรับไปแอฟริกาใต้ เมื่อปัญหาอาการบาดเจ็บหลังทำให้เขาได้ลงเล่นเพียง 2 แมตช์ หลังพักไป 3 เดือน
การรับตำแหน่งครั้งนี้ ไม่เพียงสร้างความภูมิใจให้กับเจ้าตัว แต่ยังรวมไปถึง อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด
“
เรายินดีกับเขาด้วย และเป็นเรื่องดีสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นักเตะของเราเป็นกัปตันทีมชาติ หลายปีมานี้เรามี แกรี เนวิลล์, บ็อบบี ชาร์ลตัน และ ไบรอัน ร็อบสัน ได้ทำหน้าที่นี้มาแล้ว เราภูมิใจมาก” เฟอร์กี กล่าวกุนซือชาวสกอตแลนด์ เชื่อว่าผีแดงจะได้ประโยชน์จากการตัดสินใจของคาเปลโลอีกชั้น หลังกำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรง โดยล่าสุดเปิดบ้านถล่มปอร์ตสมัทเละเทะ 50 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเฟอร์กียกให้เป็นรางวัลของความนิ่งที่เล่นอย่างอดทน ก่อนจะได้ประตูแรกในนาทีที่ 40
“
เรากดดันและครองบอลได้มาก แต่เราก็อดทนพอ และนั่นคือสิ่งสำคัญ ปอร์ตสมัททำให้ทุกอย่างยาก แต่เราได้ประตูก่อนหมดครึ่งแรกไม่นาน และโชคดีเล็กน้อยกับประตูที่ 2 นั่นทำให้เกมเปิดสำหรับเราในครึ่งหลัง และเป็นผลงานที่ดี” เฟอร์กี กล่าวด้าน อัฟราม แกรนต์ กุนซือปอร์ตสมัท ยืนยันจะสู้ต่อไป แม้ว่าตำแหน่งรั้งบ๊วยตอนนี้ดูจะรอดตกชั้นยากเหลือเกิน
“
เราต้องทำหน้าที่ของเรา แม้ว่ามันจะรู้สึกเหมือนทุกอย่างไม่เป็นใจ ผมหวังว่าสโมสรจะมั่นคงมากขึ้น และทั้งเมืองสนับสนุนสโมสร คิดในแง่บวกเข้าไว้ย่อมดีกว่าคิดในแง่ลบ และตราบใดที่เรายังมีโอกาส เราจะสู้”