แฟนๆคือทุกอย่างของ คริส บราวน์ ?
เมื่อ คริส บราวน์ ตกเป็นข่าวทำร้ายร่างกาย (อดีต)
เมื่อ คริส บราวน์ ตกเป็นข่าวทำร้ายร่างกาย (อดีต)
โดย..เพ็ญแข
แฟนสาว ริฮานนา ในปี 2009 ชื่อเสียงของเขาก็พลันโด่งดังเป็นพลุแตกเพียงชั่วข้ามคืน ชนิดที่ว่าชื่อเสียงซึ่งสั่งสมมาจากความสามารถ และผลงานทางดนตรีในช่วงหลายๆ ปีไม่อาจเทียมเท่าทันได้
หลังเรื่องร้ายๆ คริส ก็หลบเข้ามุมส่วนตัวสงบเสงี่ยมเพราะติดทัณฑ์บน ทั้งยังไม่เคยพูดลงลึกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์วันนั้นออกมาเลยแม้แต่น้อย
เรื่องผ่านไป 2 ปี ปากเขาก็บอกว่าลืมแล้ว แต่เอาเข้าจริงแล้วใครก็สะกิดไม่ได้ ปลายเดือน มี.ค. เมื่อไปออกรายการโทรทัศน์ชื่อดังเพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่ คริส ถูกป้อนคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับริฮานนา เขาตอบพิธีกรว่า ลืมเรื่องนั้นแล้ว แต่หลังจากนั้นเขากลับเข้าไปทำลายห้องแต่งตัวของรายการจนยับเยิน แถมฉีกเสื้อของตัวเองจนขาดกระจุย แล้วหุนหันออกไป
ต่อมาคุณแม่บังเกิดเกล้าก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า คริส ควรจะพูดถึงเหตุการณ์นั้นออกมาให้หมด ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็พยายามลืม และดำเนินชีวิตต่อ
ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา คริส ไปเปิดการแสดงในหลายเมืองของออสเตรเลีย แต่ก็ยกเลิกคอนเสิร์ตที่เมืองเพิร์ตอย่างกะทันหันเพราะป่วย ทำเอาแฟนเพลงกลุ่มหนึ่งไม่พอใจ และในไม่กี่วันต่อมา คริส บราวน์ ก็ไปฉลองวันเกิดครบรอบ 22 ปี แบบสุดเหวี่ยงกับเพื่อนๆ ที่ไมอามี
ดูเหมือนทุกรายละเอียดเรื่องราวในพฤติกรรมส่วนตัวของ คริส บราวน์ อยู่ในความสนใจของสื่อและผู้คนมากเสียยิ่งกว่าผลงานเพลง แต่ ณ วินาทีนี้ มาลืมเรื่องราวเหล่านั้น (ชั่วครู่) และไปฟังเพลงของเขากันดีกว่า
คริส บราวน์ เข้าสู่วงการเพลงตั้งแต่เพิ่งจะเป็นวัยรุ่นหมาดๆ ในปี 2005 เขามีอัลบั้มชื่อเดียวกับชื่อตัว เป็นงานแนะนำตัวที่ขายดีราวเทน้ำเทท่า แต่หลังจากนั้นกราฟความนิยมก็ดูจะดิ่งลงๆ อัลบั้ม Exclusive และ Graffiti ขายได้น้อยกว่างานก่อนหน้าแบบเทียบไม่ได้ ถึงอย่างนั้นอัลบั้มสุดท้ายก็ยังมีชื่อเข้าชิงแกรมมี่สาขาอัลบั้มอาร์แอนด์บีร่วมสมัยยอดเยี่ยม กระทั่งมีงานชุดใหม่นี้ F.A.M.E. อัลบั้มที่ 4 ในชีวิต ซึ่งทำร่วมกับนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์หลายคน
บทเพลงของ คริส มีส่วนคล้ายศิลปินรุ่นพี่อย่าง บ็อบบี บราวน์ หรืออัชเชอร์ เป็นงานรวมเพลงหลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะป๊อปอาร์แอนด์บี อย่างเพลงเล่าเรื่องของความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว Deuces ซึ่งฮิตติดชาร์ตอาร์แอนด์บี/ฮิปฮอปไปแล้ว คริส ได้แสดงความสามารถการแร็พกับเพลง Look at Me Now ซึ่งมี ลิล เวย์น และบัสตา ไรม์ส มาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ยังมีเพลงเต้นรำสนุกสนานสไตล์ยุโรปอย่าง Yeah 3x และ Beautiful People ส่วน No BS เป็นสโลว์แจม ขณะที่ No Bullshit นำพาสู่ยุค 1990
Up 2 You เป็นเพลงบัลลาดหวานขมสำหรับคนอกหัก ส่วน All Back เป็นเพลงบัลลาดร็อก มีเนื้อหาบอกเล่าถึงความสำนึกเสียใจ เสียงร้องดิบๆ ของเขาฟังดูดีคู่เคียงกับเสียงกีตาร์ แต่ คริส กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มแบ๊วๆ แสนโรแมนติกกับเพลงอาร์แอนด์บี–ป๊อปอย่าง Say It with Me ส่วน Next 2 You เป็นเพลงจังหวะกลางๆ ที่มีน้องหนู จัสติน บีเบอร์ มาร่วมร้องเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องเกี่ยวกับความรักและสาวๆ เป็นเพลงที่ คริส ใช้เสียงร้องแบบนุ่มนวลอย่างที่ไม่ค่อยได้ฟัง
F.A.M.E. ชื่ออัลบั้มน่าจะหมายความถึงชื่อเสียง (ซึ่งมีเงินทองและเซ็กซ์เป็นส่วนผสม) นั้น ตัวเจ้าของกลับบอกว่า แท้จริงแล้วเป็นคำย่อมาจาก Forgiving All My Enemies – อภัยให้ศัตรูของฉันทั้งหมด และ Fans Are My Everything – แฟนคือทุกอย่างของฉันตะหาก คริส ตั้งใจจะทำอัลบั้มนี้สำหรับทุกคน และให้งานเหล่านี้บ่งบอกว่าวันนี้เขาเติบโตขึ้น
ด้วยความหลากหลาย ไม่เหนียวแน่นเป็นปึกแผ่น อาจทำคนฟังสับสน แต่อย่างน้อย F.A.M.E. ก็เป็นหลักฐานพิสูจน์ว่า คริส บราวน์ ยังคงมีแรงก้าวเดินต่อไป ทางที่ดีก็เชื่อคุณแม่ ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็พยายามลืม และดำเนินชีวิตต่อ เอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน และเป็นเช่นบันไดเพื่อที่จะปีนป่ายให้ชีวิตและงานก้าวขึ้นไปอีกก้าวและอีกก้าว


