พระพุทธศาสนายังเป็นที่พึ่งชาวพุทธใน สปป.ลาว
8...สมาน สุดโต
เมื่อเกิดปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศลาว พ.ศ. 2518 จากราชอาณาจักรมาเป็นสปป.ลาว ผู้ที่ผูกพันอยู่กับการโฆษณาชวนเชื่อเก่าๆ ที่ว่าคอมมิวนิสต์ถือว่าศาสนาเป็นยาเสพติด วิตกว่าศาสนาพุทธคงจะค่อยๆ หมดความสำคัญไปเรื่อยๆ ในสปป.ลาว แต่ถ้าท่านผู้นั้นเดินทางไปเยือนสปป.ลาวช่วงนี้ ความคิดนั้นต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
ผมเคยไปเยือนสปป.ลาว 23 ครั้ง แต่ละครั้งพยายามสังเกตและดูการเปลี่ยนแปลงด้านศาสนาตลอดมา ช่วงแรกประมาณ 10 กว่าปีมาแล้วไปที่เวียงจันทน์ เห็นโบราณสถานและวัดวาอารามทรุดโทรมไปบ้างตามกาลเวลา ต่อมาก็ไปหลวงพระบางและเวียงจันทน์ซ้ำอีก 2 ครั้ง ก็ยังเห็นรูปแบบเดิมๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 2430 ม.ค. 2553 ได้ร่วมคณะไปกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยไปเยือนหลายเมืองรวมถึงแขวงพงสาลี ที่อยู่เหนือสุด ไปลำบากที่สุด เป็นดินแดนหนาวสุดๆ ของลาว ที่แม้แต่ชาวลาวด้วยกันก็หาโอกาสเดินทางไปยาก แต่พวกผมเป็นคณะแรกของไทยได้ไปตามคำเชิญของสมาคมนักข่าวลาว ที่มีโครงการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์สื่อมวลชนไทยลาว ได้พบได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เคยเห็นมาก่อนเปลี่ยนไป มีภาพที่ดีๆ ที่เหนือความคาดหมายจำนวนมากเข้ามาแทน โดยเฉพาะด้านศาสนา ที่ผมสนใจมากกว่าอย่างอื่น
เมื่อนำภาพที่พบเห็นในอดีตมาปรับโฟกัส จะพบว่าชาวพุทธทั้งวัยรุ่นวัยเรียนหันหน้าเข้าวัดมากขึ้น พระภิกษุสามเณรได้รับการศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างทั่วถึง ที่สำคัญโบราณสถาน พระธาตุ ปูชนียวัตถุ โบสถ์ ศาลา ต่างได้รับการบูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพน่าดู น่ามอง สวย และสะอาดตาสมกับเป็นอาราม
วันสำคัญทางศาสนาได้รับการยกย่องเชิดชูว่าเป็นวันสำคัญระดับชาติ เช่น วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ซึ่งตรงกับวันที่ 30 ม.ค.นั้น คณะสงฆ์ชาวพุทธลาวถือว่าเป็นวันมาฆบูชา วัดเทพนิมิต หรือวัดธาตุฝุ่น นครหลวงเวียงจันทน์ ได้จัดกิจกรรมพิเศษนำวัยรุ่นที่เป็นนักเรียนนักศึกษาทั้งชายหญิงนับร้อยคนมานุ่งขาวห่มขาวอบรมศีลธรรมและสวดมนต์ไหว้พระในวัดเป็นเวลา 3 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. 2553
นอกจากวัยรุ่น ยังมีพ่อเฒ่าแม่แก่ถือขันข้าวมารับศีลและใส่บาตรอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา รวมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและกสิกรรม ก็ได้มาร่วมทำบุญนั่งบนเสื่อพร้อมกับประชาชนชาวลาวด้วยกันโดยไม่ถือตัว ซึ่งภาพเหล่านี้ไม่มีให้เห็นในเมืองไทยแล้ว
อพส.
วัดธาตุหลวง ซึ่งเป็นวัดเก่าโบราณอายุนับร้อยปี มีพระธาตุหลวงเป็นที่เคารพสักการะและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ กำลังก่อสร้างหอธรรมสภาหลังใหญ่สวยงามขึ้นมาเพื่อเป็นที่ประชุมและเป็นสำนักงานศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ลาว (อพส.) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารสูงสุดของคณะสงฆ์ โดยใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท ในการนี้เป็นงบประมาณส่วนหนึ่ง และหลวงพ่อคูณแห่งวัดบ้านไร่ส่งปัจจัยไปสมทบ 2 ครั้ง มูลค่าเท่าไรไม่สามารถหาตัวเลขมายืนยันได้
พระสงฆ์ที่อพส. บอกว่า อาคารหลังนี้เป็นสัญลักษณ์หลังประเทศถูกปลดปล่อย และจะเป็นสถานที่สำหรับฉลองนครหลวงเวียงจันทน์ครบ450 ปี ในเดือนพ.ย.ปีนี้
อพส.ประกอบด้วยพระที่เป็นตัวแทนจากแขวงต่างๆ 17 แขวง รวม141 รูป และอพส.เมืองต่างๆ จำนวน 533 รูป ผู้เป็นประธานสูงสุดได้แก่ ดร.พระมหาวิจิตร สิงหราช วัดธาตุหลวง มีผู้ช่วยอีก 4 รูปอยู่ต่างวัดกัน
อพส.กระจายงานแบ่งเป็นคณะบริหารงานประจำ คณะกรรมาธิการการปกครองสงฆ์ โครงการเผยแผ่ โครงการเมตตาธรรม กรรมการสาธารณูปการ แต่ละคณะมีผู้บริหารมีหน้าที่ลดหลั่นกันไป
ส่วนการประชุมใหญ่ อพส.จะมีในเดือนมี.ค.ทุกปี เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารคณะสงฆ์ลาว พร้อมทั้งดูแลความบกพร่องผิดพลาดการบริหารว่าอะไรบ้าง พร้อมทั้งกำหนดแนวทางแก้ไข เช่น การย่อหย่อนของพระ หากมีก็ให้อพส. เมืองสั่งอธิการวัดนั้นๆ เข้าไปแก้ไข
ในการอบรมวิธีการเผยแผ่นั้น วัดป่านาคูณ นาทรายทอง เวียงจันทน์จัดอบรมพระให้เป็นวิทยากร เป็นนักเผยแผ่ โดยให้แต่ละแขวงคัดเลือกจัดส่งมาอบรมแขวงละ 2 รูป (ส่วนระยะเวลาขึ้นอยู่กับการกำหนดของวัดว่ากี่วัน) ในการเผยแผ่ อพส.และวัดรับนโยบายมาจากกรมการศาสนา ซึ่งกรมการศาสนาได้รับโดยตรงมาจากแนวลาวสร้างชาติเพื่อเผยแผ่อีกต่อหนึ่ง นโยบายที่รับมาเผยแผ่ไม่ได้ต่างจากศีลธรรมและพระธรรมคำสอนแห่งพุทธศาสนา เพราะพรรคและศาสนามีเป้าหมายเดียวกัน คือ สร้างคนดีมีศีลธรรม ดังนั้นแนวลาวสร้างชาติจึงกำหนดให้พระสงฆ์เข้าไปอบรมศีลธรรมในโรงเรียนทุกระดับอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ เพื่อให้เยาวชนใกล้ชิดศาสนาและมีศีลธรรม แม้กระทั่งในช่วงโรงเรียนปิดภาคฤดูร้อนมีนักเรียนเข้ามาบวชและอบรมศีลธรรมเป็นเวลา 1 เดือน แต่ละปีมีผู้เข้ามาบวชนับร้อยๆ คน
สถิติวัดและพระ
สถิติด้านศาสนาที่อพส. รวบรวมไว้น่าสนใจ แม้จะเป็นตัวเลขปี 20072008 ก็ตามคือ
ทั่วประเทศ 17 แขวง มีพระสงฆ์7,341 รูป สามเณร 12,035 รูป พ่อขาว 4 คน แม่ขาว 450 คน สังกะลี (เด็กวัด) 506 คน วัดที่มีพระอยู่ประจำจำนวน3,570 วัด วัดร้าง 741 วัด พระบวชใหม่ 1,080 รูป สามเณรบวชใหม่ 2,822 รูป พระสึก (ลาสิกขา) 716 รูป สามเณรลาสิกขา 966 รูป พระภิกษุตาย (มรณภาพ) 99 รูป สามเณร 10 รูป
ถามว่าการบวชพระและเณรเพิ่มขึ้นหรือลดลงในปัจจุบัน
พระเจ้าหน้าที่อพส. รูปหนึ่ง ตอบว่า เพิ่มขึ้น โดยท่านบอกว่าทั้งพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศในขณะนี้มีประมาณ 30,095 รูป เทียบกับปี 20072008 ที่มี 19,394 รูป
ดูวัตรปฏิบัติของพระ นอกจากพระสงฆ์สามเณรออกโปรดสัตว์ตามปกติทุกเช้า ตอนเย็นผมเห็นพระเณรหลายรูป ทั้งที่วัดธาตุหลวงใต้และธาตุหลวงเหนือ กวาดลานวัด ซึ่งภาษาวัดเวียงจันทน์เรียกว่าทำอนามัย
เมื่อไปเยือนหลวงพระบาง ก็ชื่นชมกับการที่พระภิกษุสามเณรนับร้อยที่เดินมารับบิณฑบาตจากญาติโยมที่ถนนหลังโรงแรมพูสีอย่างเป็นระเบียบ ญาติโยมทั้งชาวลาว ชาวไทย และนักท่องเที่ยว ต่างนั่งบนเสื่อใส่บาตรด้วยความเคารพ
ผมอยากรู้ว่าพระเณรบิณฑบาตแล้วฉันเมื่อไร อย่างไร จึงเดินตามไปดู ระหว่างทางญาติโยมชาวหลวงพระบางหลายรายใส่บาตรให้พระเณร ในจำนวนนั้นมีคุณยายคนหนึ่ง ข้างๆ ที่คุณยายนั่งใส่บาตรมีตะกร้าใบเล็กที่มีกล้วยน้ำว้าและขนมหลายชิ้นบรรจุอยู่ ขณะที่ยายใส่บาตรผมเห็นสามเณรเอาขนมใส่ลงในตะกร้าที่วางอยู่นั้น จึงถามคุณยาย ท่านตอบว่า พระเณรนั้นช่วยแบ่งให้แม่ออกมีกิน
ผมตามไปดูถึงหอฉันวัดธาตุหลวงที่หลวงพระบางในเวลา 07.20 น. ขอดูในบาตรพบว่าข้าวเหนียวและอาหารอื่นๆ เต็มบาตร บนโต๊ะอาหารมีน้ำแกง 23 ถ้วยที่ญาติโยมนำมาถวายตั้งไว้บนโต๊ะอาหาร
เมื่อพระเณรมากันพร้อม ท่านจะสวดยะถาสัพพีเพื่ออนุโมทนาและอวยพรญาติโยมก่อนที่จะลงมือฉันตามปกติ (ต่างกับไทยที่ฉันแล้วจึงอนุโมทนา)
ศรัทธายังเข้มแข็ง
เท่าที่ดูความนับถือเลื่อมใสพระพุทธศาสนาในลาว ยอมรับว่าศรัทธาเขาเข้มแข็ง เช่น ที่พงสาลี เหนือสุดสปป.ลาว เจ้าแขวงยังสร้างธาตุภูฟ้าสูงใหญ่ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,625 เมตร ตั้งบนภูที่สูงที่สุดในพงสาลี ปกคลุมด้วยหมอกตลอดเวลา
มาที่แขวงอุดมไชย ทางแขวงก็สร้างพระธาตุบนภูสูง พร้อมกับกำลังสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ขึ้นที่นั่นอีกหนึ่งองค์
ไม่จำต้องกล่าวถึงเส้นทางที่คณะนั่งรถผ่านตั้งแต่ห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว หลวงน้ำทา อุดมไชย บุญใต้ บุญเหนือ พงสาลี ที่อยู่เหนือสุดของสปป.ลาว จะพบพระธาตุ สิม หรือโบสถ์เล็กบ้างใหญ่บ้างตามฐานะแต่ละท้องที่ แม้ว่าจะไม่ทุกที่ทุกแห่งก็ตาม แม้ว่าเส้นทางที่ผ่านนั้นไม่สะดวกและขรุขระ เลียบหน้าผาเชิงเขา ผ่านป่าดงดิบ นานๆ จะพบหมู่บ้านชาวเขาชาวเผ่าครั้งหนึ่งทั้งนี้ไม่นับหลวงพระบางและเวียงจันทน์ที่มีวัดมีพระธาตุมากมายอยู่แล้ว
ในสายตาของผม พระพุทธศาสนายังเป็นศาสนาประจำชาติสปป.ลาว โดยรัฐบาลสนับสนุนส่งเสริมทุกกระบวนการตั้งแต่ให้พระสงฆ์ให้เข้าไปมีบทบาทเผยแผ่ศีลธรรมแก่นักเรียน ประชาชน และกิจกรรมทางศาสนาอื่นๆ เป็นการกระทำที่สอดคล้องกับโยบายพรรคที่ต้องการคนดีมีศีลธรรม จึงไม่มีอะไรขัดแย้งกัน แม้จะต่างลัทธิกันก็ตาม
..................................................................................
(ขอขอบคุณสมาคมนักข่าวลาว ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับคณะสื่อมวลชนไทย)


