posttoday

เคล็ดลับครอบครัวก้าวไกล แบบ ศรีมหาโชตะ

06 มีนาคม 2554

คงมีไม่มากนักที่คู่รักที่คบกันตั้งแต่มหาวิทยาลัย ถือเป็นรักแรก แต่งงาน แล้วก็ทำธุรกิจอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น ตลอดเวลาเกือบ 30 ปี เช่นคู่ของเขาสองคนนี้ วารีวรพจน์ ศรีมหาโชตะ ทั้งคู่เป็นเจ้าของฮาเวน รีสอร์ต ที่หัวหิน และฮาเวน รีสอร์ต ที่ประเทศภูฏาน ซึ่งถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ไปลงทุนที่นั่น นอกจากนี้ ฝ่ายสามียังมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลัก

คงมีไม่มากนักที่คู่รักที่คบกันตั้งแต่มหาวิทยาลัย ถือเป็นรักแรก แต่งงาน แล้วก็ทำธุรกิจอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น ตลอดเวลาเกือบ 30 ปี เช่นคู่ของเขาสองคนนี้ วารีวรพจน์ ศรีมหาโชตะ ทั้งคู่เป็นเจ้าของฮาเวน รีสอร์ต ที่หัวหิน และฮาเวน รีสอร์ต ที่ประเทศภูฏาน ซึ่งถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ไปลงทุนที่นั่น นอกจากนี้ ฝ่ายสามียังมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลัก

โดย...อณุศรา ทองอุไร

เคล็ดลับครอบครัวก้าวไกล แบบ ศรีมหาโชตะ

คงมีไม่มากนักที่คู่รักที่คบกันตั้งแต่มหาวิทยาลัย ถือเป็นรักแรก แต่งงาน แล้วก็ทำธุรกิจอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น ตลอดเวลาเกือบ 30 ปี เช่นคู่ของเขาสองคนนี้ วารีวรพจน์ ศรีมหาโชตะ ทั้งคู่เป็นเจ้าของฮาเวน รีสอร์ต ที่หัวหิน และฮาเวน รีสอร์ต ที่ประเทศภูฏาน ซึ่งถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ไปลงทุนที่นั่น นอกจากนี้ ฝ่ายสามียังมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท เป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลัก

ฝ่ายภรรยาย้อนอดีตให้ฟังว่ารู้จักกันตั้งแต่สมัยที่ทั้งคู่เรียนอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยกัน คบกันมาเรื่อยจนเรียนจบ แต่งงานกัน ฝ่ายหญิงไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเอกชนอยู่ 7 ปี หลังจากนั้นก็ลาออกมาทำธุรกิจด้วยกันตลอดจนถึงวันนี้ แม้โดยลักษณะนิสัยแล้วทั้งคู่มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“อย่างเรื่องการทำธุรกิจเขาจะคิดเร็วแล้วอยากลงมือทำเลย พี่จะคอยเบรกว่ารอจังหวะก่อนดีไหม บางอย่างรอได้ แต่บางอย่างก็รอไม่ได้ ก็ต้องเอาเหตุผลที่ดีกว่ามาหักล้างกัน เราไม่แตกหัก จะใช้เหตุผลให้มาก แต่พี่ก็จะพยายามเป็นเบื้องหลังที่ดี คอยสนับสนุนเขาอยู่เสมอ อย่างน้อยเราก็เป็นคนที่เขาไว้ใจมากที่สุด และเขาก็เป็นคนที่เราหวังดีมากที่สุดเช่นกัน เขาดีเราก็ดีตามด้วย แต่ถ้าเขาแย่เราก็แย่ด้วย อะไรที่ดีทำแล้วเขามีความสุข พี่จะพยายามไม่ขัดขวาง ใครๆ ก็อยากเห็นคนที่เรารักมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น” ภรรยา เล่าถึงวิถีแห่งชีวิตคู่

ด้วยว่าสามีนั้นเป็นคนลุยและเร็ว เป็นนักบุกเบิก ชอบสร้างงานใหม่ๆ ขณะที่ภรรยาชอบอะไรที่ช้าๆ แต่มั่นใจ ชอบเก็บรายละเอียด แต่ในความต่างก็ถือว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัว คนหนึ่งช้า อีกคนเร็ว อีกคนชอบภาพกว้าง อีกคนชอบเก็บรายละเอียด

“พี่ว่าก็ดีนะ เราแตกต่างกันบ้าง แต่เราก็เข้าใจกัน เพราะเรามีพื้นฐานของความเป็นเพื่อนมาก่อน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมาตลอด เขาร้อนเราเย็น เวลาเราร้อนเขาก็เย็น อยู่ที่ว่าเราพร้อมจะปรับตัวเข้าหากันมากแค่ไหน พี่ว่าไม่ว่าจะต่างกันอย่างไร แต่เป้าหมายเดียวกันคือสร้างธุรกิจและครอบครัวที่ดี อะไรๆ เราก็ทนกันได้ ค่อยๆ แก้ ค่อยๆ ปรับตัวกันไป ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”

ในเรื่องงานแบ่งบทบาทกันชัดเจน สามีคิด ภรรยาสานต่อ พร้อมเก็บกวาดรายละเอียด สายการบังคับบัญชาอาจจะสั้น สื่อสารกันได้เร็วตรงประเด็น แต่ก็มีความประนีประนอมสูง ไม่ใช่ว่าจะเห็นเหมือนกันตลอดเวลา มีหลายเรื่องที่เห็นต่าง แต่ถ้าใครมีเหตุผลที่ดีอีกฝ่ายก็ต้องรับฟัง

การเลี้ยงลูกก็มีความเห็นที่ต่างกัน สามีจะเลี้ยงลูกชายให้แกร่งและลุยสุด เหมือนตอนที่เขาเป็นวัยรุ่น แต่ 30 ปีที่ผ่านมากับตอนนี้มันก็ต่างกันมาก เด็กสมัยนี้อาจจะลุยไม่เท่า เลยตกลงแบบสายกลาง ลุยแต่พอสมควร แต่ถ้าสามีกำลังสอนลูก ผู้เป็นภรรยาจะไม่ขัด เพราะจะเสียระบบการปกครอง แต่แม่จะเป็นฝ่ายอธิบายว่าทำไมพ่อถึงสอนแบบนั้น พ่อคิดอะไรอยู่เพื่อให้ลูกเห็นภาพตรงกับที่พ่อต้องการสื่อ

“ขณะที่เลี้ยงลูกสาว สามีพี่เขาก็จะโอ๋มาก เราก็จะต้องคอยบาลานซ์ว่าลูกสาวลุยบ้างก็ได้ จะได้เอาตัวรอด แบบว่าสายกลางดีไหม โชคดีว่าเราคุยกันได้ทุกเรื่อง เขาพูดพี่ฟัง พี่พูดเขาก็ฟัง สำหรับพี่แล้วถ้าอยู่บนพื้นฐานของความรัก ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็แก้ไขได้เสมอ เพราะปัญหาทุกปัญหาแก้ได้ด้วยความรัก” วารี กล่าวอย่างมั่นใจ

 

ข่าวล่าสุด

เปิดโผกลุ่มหุ้นได้-เสียประโยชน์ เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4.5 ปี