หุ หุ หุ เสียงหัวเราะผ่านงานศิลป์ของ ‘ปาล์ม อินสติงค์’
แวบแรกที่เดินผ่านกอสสิบ แกลเลอรี่ ชั้น 3 สีลม แกลเลอเรีย สีสันจัดจ้านของภาพเขียนและงานปั้นที่อยู่ด้านในห้องสี่เหลี่ยม
แวบแรกที่เดินผ่านกอสสิบ แกลเลอรี่ ชั้น 3 สีลม แกลเลอเรีย สีสันจัดจ้านของภาพเขียนและงานปั้นที่อยู่ด้านในห้องสี่เหลี่ยม
เรื่อง มัลลิกาดวงสมร
แวบแรกที่เดินผ่านกอสสิบ แกลเลอรี่ ชั้น 3 สีลม แกลเลอเรีย สีสันจัดจ้านของภาพเขียนและงานปั้นที่อยู่ด้านในห้องสี่เหลี่ยม เป็นเสมือนแรงดึงดูดที่พาเราให้ผลักประตูบานนั้นเข้าไป และก็ถึงบางอ้อได้ไม่ยากเมื่อเดินชมผลงานแต่ละชิ้นๆ ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะในรูปทรงของพระเอกบนเฟรมที่ถอดเอารูปร่างท่าทางบุคลิกของเจ้าของผลงานมาได้อย่างดี (ซึ่งเขาเสนอตัวเป็นตัวแทนของผู้ชายบนโลกนี้) หนำซ้ำกับเรื่องราวบนแผ่นผืนผ้าใบที่สะท้อนเรื่องเพศ (สัมพันธ์) ในสังคมเมือง ซึ่งเป็นแนวความคิดในการทำงานของ “ปรียวิศว์ นิลจุลกะ” ที่นำเสนอผ่านการจัดนิทรรศการมาแล้วรวม 3 ครั้ง “หุ หุ หุ” คือนิทรรศการล่าสุดของเขา
“ปรียวิศว์ นิลจุลกะ” หรือรู้จักกันดีในฐานะ “ปาล์ม อินสติงค์” นักร้องที่ฝากเพลงดังไว้หลายเพลงอย่าง “โปรดส่งใครมารักฉันที” และ “นับถอยหลัง” ในวงการเพลง ชื่อของเขาไต่ชาร์ตได้รับความนิยมจากผู้ฟังหลายต่อหลายครั้ง ส่วนในแวดวงงานศิลป์ชื่อของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักบ้างแล้ว
นิทรรศการ “หุ หุ หุ” เป็นผลงานต่อเนื่องจาก 2 ครั้งก่อนหน้านี้ในปี 2549 “รู้หมดแต่มันอดไม่ได้” และ “ไซด์ไลน์” ในปี 2551 เรื่องราวที่บอกเล่าอาจไม่แตกต่าง ทว่าขั้นตอนในการสร้างสรรค์ผลงานนั้นได้มีการพัฒนาทางด้านเทคนิค อย่างงานล่าสุดได้มีการนำงานประติมากรรมและการจัดวางมาช่วยสร้างสีสันความแปลกใหม่ให้กับผู้ชม และสร้างความท้าทายให้กับตัวเองด้วย
“ผมอยากทำงานอาร์ตทุกด้าน อยากลองดูว่าผลงานของเราเมื่อออกมาเป็นงานปั้นจะเป็นอย่างไร ผมอยากเป็นอาร์ติสต์มากกว่าจะเป็นเพนเตอร์ งานครั้งหน้าก็กะว่าจะเป็นวาดและปั้นอย่างละครึ่ง เพื่อให้คนดูเกิดความสนุกด้วย”
“หุ หุ หุ” สื่อความหมายถึงเสียงหัวเราะแบบหนึ่งที่ดูมีเลศนัย ชวนให้คิดถึงความหมายซ่อนเร้นที่อยู่ภายใต้เสียงหัวเราะนั้น และยังคงคอนเซปต์เดิม โดยเน้นการนำเสนอถึงเหตุการณ์ที่ได้ยิน ได้พบเจอทุกวัน ทั้งจากข่าวสารในหนังสือพิมพ์ และจากเรื่องบางเรื่องที่พบเห็นกันทุกวัน ซึ่งแม้ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน เรื่องราวเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ โดยศิลปินเน้นไปที่เรื่องกิเลส ตัณหา ราคะของมนุษย์ทั้งหญิงและชาย เช่น นักศึกษาขายบริการทางเพศ การแต่งตัวของดารานักแสดงที่มักเน้นการเปิดในส่วนที่ควรปิด และภาพการโพสต์รูปถ่ายที่เปิดเผยของตนลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก รวมถึงถ่ายทอดมุมมองต่างๆ ของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิง
“ผมเคยสอบถามข้อมูลจากหมอนวดคนหนึ่ง เขาก็เล่าว่ามีลูกค้าแปลกๆ แต่งตัวเป็นหมอเลยนะ ใส่ถุงมือ ถือมีดพลาสติก แล้วมาเล่นผ่าตัดกัน มันทำให้เราเห็นว่าบางคนอยู่ต่อหน้าเป็นอย่าง ในที่มืดกลับเป็นอีกอย่าง ผมก็เอามาเขียนภาพด้วย ภาพบางรูปไม่ค่อยโป๊นะ ใส่เสื้อเห็นอกนิดหน่อย หรือบางภาพที่เห็นข้างล่างเยอะหน่อย พูดถึงดาราไทยที่ชอบเเต่งตัวโป๊ มันเชิงประชด ไหนๆ จะใส่สั้นขนาดนี้ก็เอาให้เห็นไปเลย ซึ่งมันเป็นความปัญญาอ่อนของสังคม ทำไมดาราไทยแต่งตัวโป๊ต้องเป็นเรื่อง ผมไม่ชอบนะ เเต่ก็ชอบดู”
ปาล์มใช้ฉากหลังเป็นสถานที่ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่างสยามสแควร์ เพื่อสื่อให้เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีอยู่ทุกที่และใกล้ตัว ขึ้นอยู่กับว่าจะรู้หรือไม่รู้เท่านั้น ส่วนการเติมสีอะครีลิกให้มีสีสดจัดจ้านนั้น เพราะต้องการลดทอนความหม่นเศร้าของเรื่องราวที่นำเสนอ เพราะเนื้อหาแต่ละภาพนั้นล้วนเป็นมุมลบของสังคม การนำสีสันเข้ามาช่วยจะทำให้ผลงานไม่ดูเครียดจนเกินไป เป็นการนำเรื่องเครียดๆ มาเล่าอย่างมีอรรถรส ทว่าผลงานในครั้งนี้โดยภาพรวมแล้วดูจริงจังมากขึ้นเมื่อเทียบกับผลงานก่อนๆ ที่ยังคงมีความเป็นแฟนตาซีอยู่มาก
ทุกวันนี้ปาล์มยังมีงานร้องเพลง ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีอัลบั้มใหม่ออกมาให้ได้ฟังกัน ส่วนงานศิลปะก็ยังคงทำอยู่ทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ซึ่งปาล์มบอกทิ้งท้ายไว้ว่า การทำงานศิลปะแตกต่างจากการทำงานเพลงตรงที่สามารถสื่อสารได้กับคนทั่วโลก ข้ามพรมแดนด้านภาษา และไม่มีวันหมดอายุการใช้งานเหมือนกับอาชีพนักร้อง และเขาไม่ได้เน้นการวาดเพื่อขาย เพราะเมื่อใดที่คิดอย่างนั้นจะทำให้หมดสนุกกับการทำงาน
นิทรรศการ “หุ หุ หุ” เปิดแสดงตั้งแต่วันนี้28 ก.พ. 2554 ที่ “กอสสิบ แกลเลอรี่” ชั้น 3 สีลม แกลเลอเรีย


