รับประทานข้าว ที่ ร้านสเต็กข้างวัด

ข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ รสชาติแกงเขียวหวานเข้มๆ เผ็ดร้อนถึงเครื่องปรุงล้วนๆ....

โดย...ชายโย

วันนี้ผมออกเดินทางไปไกลกว่าย่านชานเมืองไปสู่อีกด้านของกรุงเทพฯ สู่บางกอกน้อยฝั่งธนกันบ้างครับ ซึ่งปกติแล้วฝั่งธนจะเป็นแดนลับแลสำหรับผมมาก แต่คราวนี้เราเดินทางไปด้วยการนั่งรถเมล์ต่อเดียวจากออฟฟิศย่านคลองเตย และเราบอกก่อนเลยครับว่า ตะลอนชิมคราวนี้เป็นการเดินทางตะลอนชิมต่างถิ่นแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ กะว่าไปฝากชะตากรรมดาบหน้า

ยามบ่ายคล้อยผมเดินออกจากซอยบ้านช่างหล่อ หาร้านอาหารสักร้านเอาชีวิตรอดให้พ้นก่อนเป็นลมเป็นแล้งในวันแดดร้อนๆ และฝนก็ทำท่าจะตกอยู่ไกลๆ อยู่ตลอดเวลา ในชุมชนช่างหล่อพระพุทธรูปเก่าแก่ซึ่งย้ายมาจากกรุงศรีอยุธยา ดูเหมือนจะหาร้านอาหารดีดูแล้วน่ารับประทานได้ยากเย็นนัก คงเห็นแต่กล้วยทอดที่วางขายตั้งแต่ปากซอยไปจน สุดท้ายซอยอีกด้าน

ทีแรกตั้งใจว่าจะมาชิมร้าน ก๋วยเตี๋ยวเรือแถวโรงพยาบาลศิริราช แต่ดันมาสะดุดตากับร้าน ที่ชื่อ สเต๊กข้างวัด ตั้งอยู่ข้างวัดวิเศษการเสียก่อน อารมณ์ตอน นั้นอยากรับประทานข้าวมากกว่าครับ สเต๊กไม่ได้อยู่ในสายตาของผมเลย จำได้ว่าเวลาเดินในศูนย์การค้าจะหาร้านข้าวอร่อยๆ มีที่นั่งดีๆ ที่ไม่ใช่โซนฟู้ดคอร์ตแทบไม่ได้เลย กลายเป็นร้านพิซซา อาหารญี่ปุ่น จีน เกาหลี ดีหน่อยก็อาหารไทยบุฟเฟต์ คิดว่าจะลองไปชิมอยู่ แต่ขนมจีนบุฟเฟต์นี่เข็ดครับ ไปกี่ทีก็ตักได้แต่แกงเขียวหวานวิญญาณไก่ไร่มะเขือ ไม่เคยได้เนื้อๆ เลยสักครั้ง

กลับมาที่ร้านสเต๊กข้างวัดกันบ้าง การเดินทางมาที่ร้านนี้ให้เราตั้งต้นที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วเดินมาทางซอยบ้านช่างหล่อ จะเห็นร้านสเต๊กข้างวัดอยู่ติดกับ วัดพอดี ภายในร้านตกแต่งในบรรยากาศสวยงามดูร่มรื่นและ น่านั่งมาก เชื่อว่าบรรยากาศตอนกลางคืนคงดูดีไม่แพ้กัน ที่สำคัญราคาอาหารก็เรียกได้ว่าไม่แพงอย่างที่คิด คำนวณดูแล้วอยู่ ในเกณฑ์ที่รับได้ จึงตัดสินใจเข้าไปสั่งอาหารทันที เมนูของร้านค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งสเต๊ก อาหารไทย อาหารตามสั่ง และขนมหวานมากมาย

ข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่

ร้านเปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 11 โมงเช้าเป็นต้นไป จนถึงประมาณช่วงค่ำของทุกวัน เมนูที่ผมสั่งคงเดากันออก หลังจากเจ็บใจจากร้านขนมจีนบุฟเฟต์ที่ไม่เคยได้เนื้อแกงเขียวหวานไก่เลย ก็ต้องสั่งข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่มาชิมให้หายอยากเสียหน่อย ทีนี้คง เข้าใจผมแล้วใช่ไหมครับว่า ทำไม่อุตริสั่งข้าวในร้านสเต๊ก

ไม่ช้าเมนูที่สั่งไปก็เสิร์ฟถึง โต๊ะด้วยกลิ่นหอมฉุยเครื่องแกงเขียวหวาน รสชาติที่ออกมานั้นขอบอกว่า เป็นเขียวหว้าน เขียวหวานจริงๆ รสชาติแกงเขียวหวานเข้มๆ เผ็ดร้อนถึงเครื่องปรุงล้วนๆ ถ้าถามว่าอร่อยไหม ก็อร่อยครับ อย่างน้อยผมก็รู้สึกดีกว่าเสียเงิน 69 บาท ไปกับบุฟเฟต์ขนมจีนละน่า แต่ ถ้าจะให้ดีต้องรับประทานคู่กับน้ำอัดลม หรือให้พ่อครัวลดความเข้มลงกว่านี้อีกนิดจะอร่อยกำลังดี แต่สุดท้ายก็คงแล้วแต่คนชอบละครับของแบบนี้ ระดับความอร่อยของคนเราไม่เหมือนกัน

ราคาอาหารเริ่มต้นที่ประมาณ 30 บาทขึ้นไป แล้วแต่ละเมนูอาหาร จากการสอบถามกับทางร้านได้ความว่า ร้านนี้เพิ่งเปิดได้เพียง 6 เดือน เป็นร้านใหม่ที่ยังไม่มีคนรู้จักมากนัก จุดเด่นของร้าน นี้อยู่ที่การได้รับประทานอาหารในบรรยากาศดีๆ ในราคาไม่แพง เดี๋ยวคราวหน้าผมคงต้องลองไปชิมสเต๊กตอนเย็นๆ อีกสักครั้ง แล้วจะเอามาพูดคุยกันในบล็อกส่วนตัวของผม ซึ่งใกล้เสร็จพร้อมปล่อยในเดือนหน้า โดยจะมีพิกัดร้านอาหารในกรุงเทพฯ ที่ได้ไปชิม รวมทั้งภาพเมนูอาหารที่ไม่เคยได้ลงในเวอร์ชันหนังสือพิมพ์ แล้วพบกันคราวหน้าสวัสดีครับ