posttoday

ช่วยด้วย! ง่วงในที่ทำงาน

24 มกราคม 2554

เรื่อง วรธาร ทัดแก้ว

 

 

เชื่อว่าหลายคนคงจะประสบปัญหาถูกความง่วงนอนเล่นงานในเวลางาน โดยเฉพาะหลังมื้อเที่ยงมักจะเกิดอาการหน้าท้องตึง หนังตาหย่อน เป็นช่วงเวลาที่ชวนง่วงมากๆ จนบางครั้งเพื่อนๆ ก็อดแซวไม่ได้ว่าเมื่อคืนไปทำอะไร บางคนก็ถูกหัวหน้าตำหนิ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนไม่เป็นผลดีต่อต่อคุณแน่นอน ซึ่งถ้าเกิดขึ้นบ่อยครั้งก็เป็นการสั่งสมภาพลักษณ์ที่เป็นลบต่อตัวเอง วันนี้จะมาแนะนำวิธีการกำจัดความง่วงนอนในเวลางานมาฝาก ไปดูว่ามีอะไรบ้าง

 

5 วิธีง่ายๆ

ในเว็บไซต์ของจ็อบส์ดีบีดอตคอมได้มีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่จะกำจัดความง่วงเหงาหาวนอนโดยเฉพาะที่เกิดขึ้นในสถานที่ทำงานและในเวลางานไว้น่าสนใจ 5 วิธี ดังนี้

1. กาแฟช่วยได้ เชื่อว่าหลายคนที่ดื่มกาแฟไม่พลาด เพราะกาเฟอีนในกาแฟจะช่วยให้อาการง่วงลดน้อยลงบ้าง แต่ก็ต้องระวังถ้าดื่มมากไปอาจมีอาการใจสั่น กระวนกระวาย แนะนำให้กินเวลาที่ง่วงมาก ๆ จะดีกว่า

2.งดอาหารหวาน การรับประทานอาหารที่มีความหวานอาจทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น แต่จะเป็นความรู้สึกเพียงสั้นๆ เท่านั้น เพราะหลังจากระดับน้ำตาลในร่างกายลดลงอาการง่วงก็จะกลับมาเยือนคุณอีกครั้ง เทคนิคคือ แบ่งการรับประทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ เพื่อให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายทำงานอย่างสม่ำเสมอทั้งวัน

3.ควรคิดงานที่ใช้สมองก่อนเวลาพักเที่ยง เพราะสารเคมีในร่างกายชื่อว่า คอร์ติโซล (Cortisol) ที่ช่วยให้ร่างกายมีสมาธิและความตื่นตัวจะมีปริมาณสูงในร่างกายในช่วงเวลาก่อนเที่ยง

4.งีบหลับสักพัก การพักงีบนั้นทำให้ร่างกายรู้สึกสดใสและสดชื่นขึ้นได้ อาจงีบสัก 510 นาที เท่านี้ก็ทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้แล้วล่ะ

5.ยืดเส้นยืดสาย อาจเป็นการเดินไปรับอากาศบริสุทธิ์ บิดขี้เกียจสักนิด หรือไม่การเคี้ยวหมากฝรั่งรสมินต์ก็ช่วยให้ตาสว่างจากอาการง่วงได้เช่นกัน

 

ฉบับพระพุทธเจ้า 8 วิธี

เป็น 8 วิธีอุบายแก้ง่วงที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำแก่พระโมคคัลลานเถระ อัครสาวกเบื้องซ้าย ซึ่งถูกความง่วงเหงาหาวนอน (ถีนมิทธะ) เล่นงานอย่างหนักเมื่อครั้งบำเพ็ญเพียร ณ หมู่บ้านกัลวาลมุตคาม แคว้นมคธ จนไม่อาจทำความเพียรได้ เป็นผลสำเร็จ จนพระมหาโมคคัลลานะสามารถบำเพ็ญเพียรและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด ประกอบด้วย

1.นึกถึงสัญญาให้มาก สัญญา คือ เรื่องที่เราควรกำหนดหมายไว้ในใจ ถ้ามีสัญญาอย่างไรแล้วเกิดความง่วงให้ทำในใจซึ่งสัญญานั้นให้มาก หมายถึง ถ้านึกคิดเรื่องใดแล้วรู้สึกง่วงก็ให้นึกคิดเรื่องนั้นให้มากกว่าเดิมความง่วงจะหาย เช่น นึกถึงเพื่อนๆ และญาติมาห้อมล้อมให้กำลังใจในวันเกิดก็ให้นึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น

2.ตรึกตรองเรื่องที่ได้ฟังมา ถ้ายังไม่หายให้ตรึกตรองทบทวนพิจารณาถึงสิ่งที่เคยเรียนมา เช่น วันนั้นอาจารย์สอนเรื่องนั้นเรื่องนี้ก็นำมาพิจารณา หรือสองวันก่อนถูกนายตำหนิเพราะทำงานพลาดก็คิดพิจารณาทำไมถึงถูกนายว่าเพราะอะไร เป็นต้น

3.สาธยายมนต์ คือ ท่องตำราที่กำลังอ่านอยู่นั้นออกมาดังๆ สวดมนต์ก็ได้ ท่องกฎระเบียบบางข้อของบริษัทที่จำได้ หรือเปล่งเสียงดังๆ จะทำให้หายง่วงได้

4.เอานิ้วยอนหู เอามือลูบตามตัว ถ้ายังไม่หายก็ให้เอานิ้วยอนหูหมุนไปหมุนมาหลายๆ รอบ หรือเอาฝ่ามือลูบตามตัว ลูบหน้าลูบตา จะทำให้ตื่นตัวหายง่วงได้

5.ลุกขึ้นเอาน้ำล้างหน้า ถ้ายังง่วงอยู่ ให้เอาน้ำล้างหน้าล้างตา เหลียวมองรอบทิศ หรือแหงนมองดูดาวบนฟ้า ความง่วงจะหายไป

6.นึกถึงแสงสว่าง (อาโลกสัญญา) ถึงจะนั่งอยู่ในที่มืดในยามราตรี ก็นึกว่ากำลังนั่งอยู่ตอนกลางวัน พระอาทิตย์กำลังแผดแสงจ้า ความง่วงจะหายไป

7.เดินจงกรม ทำอย่างนั้นความง่วงก็ยังไม่หายก็ให้ลุกขึ้นเดินไปมาสักพักความง่วงจะหายไป

8.เข้านอน ถ้าลุกขึ้นเดินแล้วยังง่วงอยู่แสดงว่าง่วงเต็มที่แล้วก็ให้นอนเสีย วิธีการนอนให้นอนตะแคงขวา เอาเท้าเหลื่อมกัน ตั้งสติไว้ก่อนหลับ เรียกวิธีนี้ว่า สีหไสยาสน์

คิดว่าวิธีสุดท้ายนี้คงถูกใจหลายคน แต่ถ้าจะนำไปใช้ในเวลางานและในที่ทำงานคงไม่ได้แน่นอน เว้นเสียแต่เป็นงานส่วนตัว ทำที่บ้าน

อย่างไรก็ตาม อุบายดับถีนมิทธะของพระพุทธเจ้านั้น ว่าตามพระบาลีนับเป็น 7 ข้อ ส่วนข้อ 8 ไม่เชิงเป็นวิธีแก้ง่วง แต่พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าถ้าใช้ทั้ง 7 วิธีแล้วไม่ได้ผลแสดงว่าบุคคลคนนั้นง่วงอย่างแรงต้องนอนสถานเดียว

ลองนำไปใช้ดูครับตามใจชอบ ผมเชื่อว่าดับง่วงไม่ได้ด้วยวิธีหนึ่งก็ลองวิธีอื่น เชื่อว่าด้วยวิธีที่กล่าวมานี้สามารถกำจัดความง่วงได้แน่

ข่าวล่าสุด

จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’