posttoday

วิจัยพบ PM2.5 ผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้

29 มีนาคม 2566

งานวิจัยพบว่า 80% ในฝุ่น pm2.5 มีขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน ถือเป็นอันตรายที่ส่งผลต่อสุขภาพเพราะสามารถผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ เตือนประชาชนเร่งยกระดับป้องกันตัวเอง

จากงานวิจัยพบว่า  80% ใน ฝุ่น PM2.5 คืออนุภาค ของฝุ่น ขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ซึ่ง ฝุ่น อนุภาค 0.3 ไมครอนเหล่านี้หากเราหายใจเข้าไปฝุ่นขนาดเล็ก จะผ่านทะลุเข้าไปในระบบทางเดินหายใจ ไปถึงบริเวณถุงลมปอดไปจนถึงระดับเซลล์ในร่างกายได้เนื่องจากมีขนาดเล็กและมวลน้อยกว่าจึงเข้าไปได้ลึก และเข้าถึงเส้นเลือดฝอยสามารถกระจายไปทั่วร่างกายผ่านระบบไหลเวียนของเลือดเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจได้ โดยวิธีการป้องกันหากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่มี PM2.5 สูงระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ต้องใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากกรองอากาศหรืออุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันอนุภาคขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอน

  วิจัยพบ PM2.5 ผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้

ขณะเดียวกัน ช่วงเช้าของวันที่ 29 มีนาคม 2566 สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในจังหวัดเชียงใหม่ยังปกคลุมเต็มพื้นที่ ทั้งยังมีไฟป่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดจุดความร้อนและฝุ่นควันสะสมจำนวนมาก

  วิจัยพบ PM2.5 ผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้

รศ.พานิช อินต๊ะ หัวหน้าหน่วยงานวิจัยสนามไฟฟ้าประยุกต์ในงานวิศกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ฝุ่นควันที่สะสมในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วง 2 ถึง 3 วันที่ผ่านมา เกิดไฟป่าในพื้นที่ อำเภอเชียงดาว และ อำเภอแม่แตงจำนวนมาก ประกอบกับ ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก็มีจุดความร้อนจากการเผาจำนวนมากเช่นกัน จึงมีส่วนทำให้ ฝุ่นควันมาสะสมรอบใหม่ เกิดขึ้นหลังพายุฤดูร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และฝุ่นควันที่ลอยอยู่ในอากาศลอยสูงกว่า 10 กิโลเมตรซึ่งถือว่าเป็นการสะสมจำนวนมาก ซึ่ง สิ่งที่ทำได้ ต้องควบคุมปัจจัยการเกิดฝุ่นควันใหม่ ก็จะทำให้ฝุ่นควันค่อยๆจางไป

  วิจัยพบ PM2.5 ผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้