สู่ชีวิตใหม่...ตื่นรู้(2/2)
ย่างเข้าศักราชใหม่ ...แต่ละสิ่งน่าจะขับเคลื่อนด้วยสิ่งดีๆ สมกับคำอวยพรในช่วงปีใหม่ที่เข้ามา แต่สัปดาห์แรกก็เป็นบทพิสูจน์ให้กับ สมชาย (นามสมมติ) ว่า มันไม่เสมอไป เขาได้รับจดหมายร้องเรียนวิพากษ์วิจารณ์การทำงาน รวมถึงคำตำหนิ คำบริภาษต่างๆ ต่อหน่วยงานที่สมชายรับผิดชอบ สมชายตอบจดหมายกลับไปโดยพยายามรักษาท่าทีสุภาพ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น อีกฝ่ายยังคงมีท่าทีรุนแรงตอบโต้กลับมา
เช่นเดียวกับสมศรีที่เดินทางไปกราบไหว้ญาติผู้ใหญ่ แต่แล้วด้วยความเผอเรอของเจ้าของบ้าน ความเครียดของสุนัข ฯลฯ เธอถูกสุนัขในบ้านของญาติผู้ใหญ่กัดทำร้าย แม้จะไม่รุนแรงนัก แต่ก็ทำให้ปีใหม่ของสมศรีเริ่มต้นได้ไม่ดีเลย เหมือนกับหลายๆ คนที่ช่วงเทศกาลปีใหม่น่าจะเป็นการเริ่มต้นสิ่งดีๆ แต่แล้วกลับพบว่าช่วงเวลานี้กลับเริ่มต้นด้วยสิ่งเลวร้าย หลายคนเสียชีวิต บาดเจ็บเพราะอุบัติเหตุ
“เมาแล้วขับ” หลายคนสูญเสียคนที่รักในช่วงเวลาที่น่าจะเป็นการรื่นเริง สิ่งดี สิ่งมงคลในชีวิตเราทุกคนคงรับรู้ประสบการณ์เช่นนี้ได้ว่า ท่ามกลางความปรารถนาให้เกิดสิ่งดีๆ หรือเจตนาที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีงามต่างๆ สภาพแวดล้อม หรือเหตุปัจจัยอาจไม่ได้สนับสนุน ทั้งยังเป็นปัจจัยขัดขวางก็ได้ ในวรรณกรรมเยาวชน แฮร์รี่ พอตเตอร์ เล่ม 5 มีฉากเล็กๆ ฉากหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกว่าน่าสนใจ นั่นคือ ฉากที่เพื่อนสนิทของแฮร์รี่ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้านักเรียน ความอิจฉา ความน้อยเนื้อต่ำใจทำให้แฮร์รี่รู้สึกหมางเมินกับเพื่อน ขุ่นเคืองกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อแฮร์รี่พบว่าท่ามกลางเรื่องราวนั้น แม่ของรอน เพื่อนสนิทแฮร์รี่ กำลังร้องไห้เพราะวิตกกังวล และเครียดกับความปลอดภัยในชีวิตของสมาชิกในครอบครัว แฮร์รี่พบว่าทันทีที่รับรู้ความทุกข์เช่นนี้ เรื่องทุกข์ร้อนของตนหายไปราวปลิดทิ้ง
สิ่งที่น่าสนใจ คือ ท่ามกลางความตื่นรู้ อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะเวลาที่เราไม่ยึดติดกับเรื่องราว หรือหมกมุ่นแต่กับเรื่องของตนเอง เพราะเมื่อเราไม่หมกมุ่นกับตนเองมากไป เราจะสามารถรับรู้ รับฟัง และสัมผัสเรื่องราวของคนอื่นที่นำพาเราไปสู่ความตื่นรู้บางอย่าง ภาวะการตื่นรู้เป็นประสบการณ์ที่เปรียบเหมือนเราได้เข้าใจ ได้ยอมรับ ได้ปล่อยวาง ได้ตระหนักรู้ ได้เข้าถึง หรือบรรลุบางสิ่งที่ต่างไปจากเดิม เข้มข้น มีคุณภาพมากขึ้น สิ่งที่กล่าวมาดูเป็นความหมายในเชิงเป้าหมาย แต่ภาวะตื่นรู้ ความหมายยังหมายถึงการใช้ชีวิตอย่างรู้ตัวทั่วพร้อม การดำรงอยู่อย่างมีชีวิตชีวา และอยู่กับปัจจุบันขณะ ใส่ใจกับกระบวนการเท่าๆ กับเป้าหมาย รวมถึงพัฒนาความรู้ตัวด้วยการรู้ชัดว่าสิ่งใดเกิดขึ้นในความคิด ในจิตใจของตน หมายถึงการหมั่นทบทวนแรงจูงใจภายในของตนเอง
ความตื่นรู้สามารถสร้างและพบได้ง่ายมากขึ้นด้วยเงื่อนไขสนับสนุน คือ การที่เราหมั่นเรียนรู้ ฝึกฝนเพื่อสร้างความตระหนักรู้อยู่เสมอว่าเราคือใคร เพื่อบ่มเพาะความเข้าใจในระดับลึกซึ้ง และการมีปัญญาญาณในอีกทางพฤติกรรมที่แสดงออกพึงสอดคล้องกับคุณค่าด้านในของเราด้วย คุณค่าที่จะได้มาเมื่อเรากระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อผู้อื่น และต่อสังคมวงกว้างได้ด้วย เบื้องหลังความตื่นรู้จึงมีภารกิจสำคัญ คือ การที่เราต้องกล้าหาญในการมองเข้าไปภายในจิตใจของตนเอง เพื่อเผชิญทั้งสิ่งที่น่าเกลียดน่าชัง รวมถึงด้านที่อ่อนโยน มีเมตตา ที่บางคนอาจปฏิเสธไม่อยากมองก็ได้
หลักธรรมอารยวุฒิ หลักธรรมในพุทธศาสนาที่นำไปสู่การมีวุฒิภาวะ เริ่มต้นด้วยองค์ธรรม 5 ประการ คือ ศรัทธา ศีล จาคะ สุตะ และปัญญา หากเราทำความเข้าใจนิยามของภาวะตื่นรู้ ก็จะพบว่าสิ่งสำคัญ คือ การเริ่มต้นศรัทธาในคุณค่าของชีวิต โดยเฉพาะมิติชีวิตด้านในถึงคุณงามความดีในมนุษย์ การดำเนินชีวิตอย่างมีวินัย คือ สอดคล้อง สัมพันธ์กันระหว่างพฤติกรรมภายนอกกับคุณค่าภายใน ไม่แปลกแยกแตกต่าง พร้อมๆ กับจาคะ คือ การสละ โดยเฉพาะการสละอคติ ความโง่เขลา การถือตัว การสำคัญตนแบบผิดๆ ความโลภพร้อมกับสุตะ ก็คือการที่เราสามารถเปิดรับ เรียนรู้จากสิ่งภายนอก โดยเฉพาะสื่อและสารที่เข้ามาอย่างเลือกสรร ทั้งหมดกำกับด้วยปัญญาในการแยกแยะ มีวิจารณญาณ
แบบฝึกหัดเบื้องต้นและตลอดกาลของพวกเรา คือ การวางชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะ
“ที่นี่และเดี๋ยวนี้” เพราะมีแต่ปัจจุบันขณะเท่านั้นที่เรามีอำนาจในการควบคุมและรับมือสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาอย่างมีสติ สิ่งที่ยากลำบาก คือ จิตใจของเราที่มักวิ่งหนีจากปัจจุบันขณะ ช่องประตูที่จิตใจเราวิ่งหนี เริ่มต้นที่ 1) การหนีไปกับอนาคต ถึงเรื่องราวข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง เฝ้าครุ่นคิดทั้งทางบวกหรือลบ จมจ่อมไปกับความรู้สึกที่ปรุงแต่งจากความคิดนึกฝันเฟื่องนั้น 2) หนีไปกับอดีต ทั้งในทางโหยหา กลัดกลุ้ม รวมถึงคร่ำครวญ 3) หนีไปกับการหมกมุ่นในตนเอง ทุกเรื่องราวที่ครุ่นคิดมีตัวเราเป็นศูนย์กลาง เช่น ฉันชอบ ฉันไม่ชอบ ฉันเกลียด ฉันรัก ฯลฯ และ 4) การหนีไปกับเรื่องราวโดยแยกตัวออกไปเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวภายนอกจนหลงลืมตนเอง ทั้ง 4 ช่องทาง คือกับดักให้เราทุกคนหลุดจากปัจจุบันขณะ“
พูดง่าย แต่ทำยาก” นี่คือความจริงสำคัญของการสร้างภาวะตื่นรู้ในตัวเรา กระนั้นรางวัลของความยากลำบาก คือ ภาวะตื่นรู้ และมีชีวิตที่เต็มเปี่ยม สำคัญคือ มีชีวิตที่ไม่กัดเจ้าของ และนั่นคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่

