posttoday

'ฌ'...กับความมีอยู่จริง

08 มกราคม 2553

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

รู้ทั้งรู้ว่า “มีอยู่” แต่ก็ไม่เคยเห็นคุณค่า หยิบจับมาใช้สอย แต่ในวันที่ความจำเป็นวิ่งมาตรงหน้า สิ่งที่    คิดว่ามันน่าจะ “อยู่ตรงนี้” กลับหายไป ยิ่งพยายามหา ยิ่งกลับไม่เจอ ...

กะอีแค่จะหาความหมายของ “เรือเฌอ” ในยุคปฏิวัติข้อมูลข่าวสาร แค่การเคาะแป้นพิมพ์ไม่กี่ครั้ง คลิกเมาส์ไม่กี่ที ข้อมูลพร้อม รูปภาพที่ต้องการก็น่าจะถาโถมมาให้อ่านไม่หวาดไม่ไหว

แต่ทว่า “ปัญหา” ที่ไม่ควรเป็นปัญหาดันมาอยู่ตรงแป้นพิมพ์ปุ่มกด “ฌ” ที่อยู่ตรงหน้า ห่างปลายจมูกคืบกว่าๆ และผ่านตามานับครั้งไม่ถ้วน กลับดันหาไม่เจอในเวลาเร่งรีบต้องการใช้

งมอยู่พักใหญ่ ก่อนจะได้ตัวช่วยมาช่วยเฉลยชี้ตำแหน่ง ปุ่ม “ฌ” น่าแปลกใจคือตรงที่ ปุ่มนี้อยู่กลางแป้นพิมพ์พอดิบพอดี ชนิดที่หลับตาจิ้มไปกลางแป้นพิมพ์ก็เกือบจะโดนอยู่แล้ว

ถ้าเป็นไม้คงจะทิ่มตา ถ้าเป็นงูมันคงจะฉก แต่นี่เป็นเพียงแค่ปุ่ม “ฌ” มันจึงอยู่นิ่งๆ ของมันเหมือนก่อนหน้านี้ ที่ไม่เคยมีใครสนใจไยดี

ตรงกันข้ามกับ ปุ่ม “ฬ” หรือ “ฐ” หรือ “ฒ” แม้จะถูกจัดลำดับความสำคัญ ลดชั้นไปอยู่เกือบตกขอบแป้นพิมพ์ แต่ดันหาง่ายกว่าปุ่ม “ฌ” เป็นไหนๆ

ย้อนมาเรื่อง “เรือเฌอ” ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเล็กๆ เมื่อสัปดาห์ก่อน จนนำมาสู่ความสนใจใคร่รู้ว่า เรือที่ว่านี่มันรูปร่างหน้าตาอย่างไร และไหลเลยมาถึงปัญหาเรื่อง “ฌ”

ที่น่าสนใจไม่ใช่แค่อายุอานามที่ปาเข้าไปกว่า 80 ปี จนจัดอยู่ในหมวดเรือโบราณที่ทางการเตรียมอนุรักษ์ แต่ด้วยประวัติอันโชกโชน กับการทำหน้าที่ “ขุดแร่ดีบุก” และปัจจุบันแทบจะหาดูเรือแบบนี้ในลักษณะสมบูรณ์ได้ยาก

ครั้งหนึ่ง ทีมงานผู้สร้างภาพยนตร์ “มหา’ลัยเหมืองแร่” เคยสะท้อนปัญหาว่า หาเรือขุดแร่ดีบุกลำใหญ่เท่าขนาดที่ปรากฏในภาพยนตร์ไม่ได้ ต้องอาศัยคำบอกเล่า ภาพถ่าย และจินตนาการทำเรือจำลองมาเป็นฉากตามที่เห็น

น่าตกใจตรงที่ “ดีบุก” ในยุคนั้นเป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของไทย ช่วยล่อเลี้ยงจีดีพีประเทศ แต่วันนี้เราแทบไม่เห็นร่องรอยของสภาพอดีตในยุคนั้น แค่ “ดีบุก” หน้าตาเป็นอย่างไรยังตอบยาก นับประสาอะไรกับเรือขุดแร่ดีบุกที่จะมีคนรู้จัก

จากการสืบค้นเบื้องต้นแทบไม่พบข้อมูล “เรือเฌอ” ใกล้เคียงที่สุด น่าจะอยู่ที่อุปกรณ์ที่มีชื่อว่า “กระเชอ” หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “กะพ้อ” เครื่องมือทำมาจากเหล็กขนาดใหญ่ทำหน้าที่ขุดแร่ดีบุก ก่อนเทลงรางแยกและล้างแร่ และน่าจะกลายเป็นคำเรียกขานของเรือตามมา

สันนิษฐานต่อไปอีกว่า การสะกดคำว่า “เรือเฌอ” ตามข่าวน่าจะเป็นในช่วงนั้นที่ไม่มีแบบแผนตายตัว จนกลายเป็นความคลาดเคลื่อน ทั้งที่ควรจะเรียกว่า “เรือกระเชอ” ตามอุปกรณ์ที่อยู่ในเรือ ต่อมาเรียกสั้นๆ เป็น “เรือเชอ”

ไม่น่าแปลกใจกับการสะกดเรียก “เรือเชอ” กับ “เรือเฌอ” ที่ยากต่อการอ้างอิงตามแบบแผนชัดเจน และในอีกหลายๆ คำยังพบเห็นการใช้สลับไปมาระหว่าง “ช” กับ “ฌ” อยู่หลายคำ

แม้แต่หนังสือเรียนท่อง ก.ไก่ ถึง ฮ.นกฮูก ของเด็กในยุคนี้ ยังเป็นที่ถกเถียงถึงความถูกต้องระหว่าง ฌ.เฌอ กับ ฌ.กะเฌอ เมื่อด้านหนึ่ง ยืนยันว่าต้องเป็น ฌ.เฌอ หรือต้นไม้ ตามรากศัพท์ภาษาเขมร พร้อมปฏิเสธไม่ยอมรับ ฌ.กะเฌอ ซึ่งไม่มีความหมายตามพจนานุกรม

นับดูคร่าวๆ นอกจากคำทับศัพท์บาลีสันสกฤต คำในภาษาไทยที่ใช้ “ฌ” ดูจะเหลือน้อยจนพอจะไล่นับนิ้วได้ เช่น ฌาน ฌาปนกิจ ฌาปนสถาน เฌอ หรือ “เฌอเอม” ที่เปลี่ยนไปเป็น “ชะเอม”

นี่จึงน่าจะพอเป็นข้ออ้าง อธิบายการหา “ฌ” ไม่เจอบนแป้นพิมพ์ เพราะแม้จะอยู่กลางแป้นพิมพ์ แต่โอกาสที่จะได้พิมพ์คำที่ใช้ “ฌ” นอกจากน้อยแล้ว ยังเป็นความหมายเฉพาะด้าน ที่หากนับกันจริงๆ แต่ละปีจะได้มีโอกาสใช้กันกี่ครั้ง

ถ้าเปรียบเป็นสัตว์ “ฌ” คงจัดอยู่ในหมู่สัตว์อนุรักษ์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ตามหลัง ฃ.ฃวด และ ฅ.ฅน ที่ปัจจุบันเหลืออยู่ในสมุดฝึกอ่านเขียน ก.ไก่ และปุ่มบนแป้นพิมพ์บางรุ่นที่นำสองพยัญชนะนี้มารวมกันเป็นหนึ่งปุ่มเผื่อจำเป็นต้องใช้ในโอกาสพิเศษ

สถานะของ “ฌ” ในวันนี้จึงอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญระหว่าง การประคองตัวรักษาสถานะความมีอยู่กับคำที่เหลือใช้ไม่กี่คำ ที่หากไม่ได้รับการสนใจต่อไปก็อาจจะการล้มหายตายจาก ไม่ต่างจากเรือขุดแร่ดีบุก ที่แม้แต่จะหาดูซากยังเป็นไปได้ยาก

คำถามที่สำคัญอาจไม่ได้อยู่ที่การจะมีอยู่หรือไม่ของ “ฌ” แต่สำคัญว่า เมื่อมีอยู่แล้ว จะใช้ประโยชน์ได้จริงมากน้อยแค่ไหน
ถึงทุกวันนี้เราจะยังรับรู้ความมีอยู่จริงของ “ฌ” แต่หากไม่ได้หยิบจับนำมาใช้เป็นเวลานาน นอกจากจะยิ่งทำให้มองข้าม จนแทบไม่คิดอยากใช้แล้ว หรือคิดว่าจำเป็นต้องใช้ ดังนั้นการรับรู้แต่เพียงว่ามีอยู่ จึงอาจไม่ได้หมายความว่ามันมีอยู่จริง

ไม่ต่างจากการออกมาเรียกร้องถามหาประชาธิปไตยที่แท้จริงของหลายฝ่าย ในวันที่เราประกาศตัวว่าเป็นประชาธิปไตยมาตั้งแต่ปี 2475 แต่กลับยังวนเวียนก้าวไม่พ้นวงวนปัญหาเดิม ทั้งการปฏิวัตินับครั้งไม่ถ้วน เปลี่ยนรัฐธรรมนูญมา 18 ฉบับ

การรับรู้เพียงแต่ว่าเป็น “ประชาธิปไตย” มีอยู่จริง จึงไม่ใช่เครื่องยืนยันว่ามันมีอยู่จริง ถ้าไม่ได้หมั่นหยิบจับนำมาใช้อยู่เป็นประจำ
หนำซ้ำจะยิ่งเป็นอันตรายเสียกว่า กรณีที่เรา “รู้ตัว” และยอมรับว่า “ประชาธิปไตย” มันไม่ได้มีอยู่จริง และคิดหาทางรับมือกับมัน ซึ่งจะง่ายต่อการแสวงหา แทนที่จะภูมิใจกับสิ่งที่เพียงรู้สึกว่ามีแต่กลับไม่มีจริง

รวมทั้งยังมีอีกหลายเรื่องๆ ที่วันนี้เรายังหลงระเริงว่าเรามีอยู่ แต่กลับไม่เคยใช้ หากวันหนึ่งเมื่อถึงคราวจำเป็นที่แวะเวียนมา โอกาสหาไม่เจอย่อมมีสูง ไม่ต่างจากการงมหา “ฌ” บนแป้นพิมพ์

แถมงานนี้อาจจะลำบากกว่าการควานหา “ฌ” บนแป้นพิมพ์ ซึ่งแม้จะเหมือนหายากในบางครั้ง แต่มันก็ยังอยู่ตรงหน้าของเรานี่เอง

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68