ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ 3-4เลื่อนฉายมี.ค.ปีหน้า
ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค3 และ 4 เลื่อนอีก จากเดิมธ.ค.นี้ไปเป็นปลายเดือนมี.ค.54 ด้านเสี่ยเจียงเผยล่าช้าเพราะซีจี โดยเฉพาะฉากยุทธหัตถี
ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค3 และ 4 เลื่อนอีก จากเดิมธ.ค.นี้ไปเป็นปลายเดือนมี.ค.54 ด้านเสี่ยเจียงเผยล่าช้าเพราะซีจี โดยเฉพาะฉากยุทธหัตถี
และแล้วคอหนังชาวไทยก็ผิดหวังอีกครั้ง เมื่อภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 และ 4 เลื่อนกำหนดฉายไปยังปีหน้า จากเดิมที่ตั้งใจไว้ในเดือนธันวาคม 2553 เป็นปลายเดือนมีนาคม 2554 โดยมีสาเหตุเนื่องมาจากติดขัดในเรื่องของการทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิค หรือซีจี ขณะที่ เสี่ยเจียง-สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ บิ๊กบอสแห่งบริษัท สหมงคลฟิล์ม จำกัด ผู้สร้าง แนะรัฐช่วยสนับสนุนเรื่องการขายในต่างประเทศ
"สำหรับ หนังเรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ภาค 3 คงจะได้ฉายปีหน้าประมาณปลายมี.ค. และตามมาด้วยปลายเม.ย.ก็จะฉายต่อในภาคที่ 4 ที่ช้าก็เพราะว่ามีเรื่องของการทำซีจีเข้ามาค่อนข้างจะเยอะ อย่างเช่นฉากยุทธหัตถี"
"ที่ต้องทำขึ้นมาเพราะของจริงทำไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งทุนที่ใช้สำหรับทำซีจี ผมว่าน่าจะมีเป็น 100 กว่าล้านบาท และทั้ง 2 ภาคงบประมาณที่ใช้ทั้งหมดประมาณเกือบ 1 พันล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ใช้เงินทุนสูงขนาดนี้"บิ๊กบอสสหมงคลฟิล์มกล่าว
"เรื่องนี้ผมเล็งการขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะภาคที่ 4 ซึ่งเป็นฉากยุทธหัตถี เป็นฉากสำคัญ ฝรั่งอาจจะดูประวัติศาสตร์เราไม่รู้เรื่อง แต่ผมคิดว่า เอาช้างมาชนช้าง อย่างไรเขาก็ต้องดูและชอบ เพราะมันเป็นของแปลกสำหรับเขา คือในแนวทางการตลาดต่างประเทศผมคิดว่าเป็นไปได้ สำหรับเรื่องนี้ บอกตรงๆ ว่าทั้ง 2 ภาค ฉายในเมืองไทยรายได้แค่ 700 กว่าล้านบาทผมก็โอเคแล้ว ที่เหลือเราก็นำไปขายในต่างประเทศ"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสัดส่วนในการลงทุนที่ร่วมกับทางรัฐ เสี่ยเจียงกล่าวว่า "หนังเรื่องนี้ ภาครัฐมีส่วนในการลงทุน คือเรา 60% ภาครัฐ 40% ผมก็คิดว่าหน่วยงานของรัฐน่าจะเอาหนังเรื่องนี้ไปเป็นเหมือนสื่อเชื่อม สัมพันธ์ประเทศในช่องทางการค้าระหว่างประเทศ พูดง่ายๆ ฝ่ายรัฐก็น่าจะช่วยขายหนังเรื่องนี้ด้วยตามคอนเน็กชั่นที่มีเพราะลงทุนด้วยกัน ผมก็ขายทางผม ตามคอนเน็กชั่นที่ผมมี ช่วยกันขาย แต่ก็ต้องมาคุยกันว่าใครที่ไหนบ้างจะได้ไม่ชนกัน"


