posttoday

ดำเกิง มุ่งธัญญา ชีวิตร่ำรวยด้วยมิตรภาพสุดประทับใจ

03 มีนาคม 2562

ครูไอซ์ ดำเกิง เล่าว่า แม้เป็นคนพิการมองไม่เห็น แต่ชีวิตก็ได้รับแต่สิ่งดีๆ มากมายจากผู้คนในสังคม แม้ไม่สามารถมองเห็นหน้าตา แต่ก็รับรู้ได้ด้วยใจและจำได้ด้วยเสียงตลอด

ครูไอซ์ ดำเกิง เล่าว่า แม้เป็นคนพิการมองไม่เห็น แต่ชีวิตก็ได้รับแต่สิ่งดีๆ มากมายจากผู้คนในสังคม แม้ไม่สามารถมองเห็นหน้าตา แต่ก็รับรู้ได้ด้วยใจและจำได้ด้วยเสียงตลอด

***************************

โดย...วรธาร ทัดแก้ว

ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ที่เซเว่นอีเลฟเว่นปล่อยภาพยนตร์โฆษณา “เชิดชูพระคุณครู ครูคือดวงประทีปส่องทาง 2019” ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของ ไอซ์-ดำเกิง มุ่งธัญญา ผู้พิการทางสายตา วัย 25 ปี ครูสอนภาษาอังกฤษ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ถนนเจริญกรุง 57 แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ เมื่อกลางเดือน ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา ทำให้ชื่อของครูไอซ์ หรือ ครูดำเกิง เป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้น

จากนั้นพอมีคนแชร์เรื่องราวของครูไอซ์ทางเฟซบุ๊กอย่างแพร่หลาย ซึ่งทราบว่า 1 แชร์ของทุกคนเท่ากับ 1 บาท ที่จะมอบให้กับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปจัดซื้อสื่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องที่ช่วยในการเรียนรู้สำหรับผู้บกพร่องทางสายตาต่อไปด้วย สื่อสำนักต่างๆ ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ ก็มุ่งสู่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยเพื่อขอสัมภาษณ์

ดำเกิง มุ่งธัญญา ชีวิตร่ำรวยด้วยมิตรภาพสุดประทับใจ

เหนือกว่าสิ่งใด เรื่องราวของครูหนุ่มผู้พิการทางสายตาแต่กำเนิดผู้นี้ ไหนเลยจะรอดสายพระเนตรพระกรรณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงส่งเสริมเชิดชูและพระราชทานกำลังใจแก่บุคคลผู้ทำความดีและมีจิตอาสาอยู่เสมอ พระองค์ท่านได้มีพระราชกระแสทรงชมเชยครูดำเกิงอีกด้วย

ในการนี้ ผู้แทนพระองค์ได้น้อมอัญเชิญพระราชกระแสทรงชมเชยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มามอบให้แก่ครูหนุ่มถึงโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งพระราชกระแสทรงชมเชยนั้น สร้างความปลาบปลื้มปีติและกำลังใจให้กับครูไอซ์ และครอบครัว ตลอดจนคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักเรียน และบุคลากรโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย อย่างหาที่สุดมิได้

เส้นทางชีวิตสู่ฝันที่เป็นจริง

ดำเกิง มุ่งธัญญา ชีวิตร่ำรวยด้วยมิตรภาพสุดประทับใจ

มีคำพูดที่เรามักได้ยินเสมอว่า “คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่ชีวิตเลือกที่จะเป็นอะไรก็ได้” เป็นสิ่งที่ครูไอซ์นำมาใช้พัฒนาและทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ซึ่งความฝันของเขาคือการได้เป็นครูสอนเด็กนักเรียน แล้ววันหนึ่งความฝันนั้นก็เป็นจริง หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ครุศาสตร์ ก็สอบครูและได้รับการบรรจุที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2559

ใครจะคิดว่าหนุ่มพิการทางสายตาตั้งแต่เด็กจะทำฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้ในเวลาที่รวดเร็ว ขนาดคนปกติที่มีความฝันเหมือนอย่างเขาก็ยังไปไม่ถึงสักที บางคนถึงกับถอดใจเบนเข็มไปทำอย่างอื่น

แน่นอนว่าความฝันที่เป็นจริงของครูดำเกิงนั้น ไม่ได้ได้มาง่ายๆ และไม่ใช่เพราะว่าเป็นคนพิการแล้วคนอื่นต้องเห็นใจแต่อย่างใด แต่ความฝันที่สำเร็จเป็นจริงนำมาซึ่งความภาคภูมิใจนั้นได้มาจากความพากเพียร ความพยายาม และความอดทนที่มากกว่าคนปกติหลายเท่า

“ผมไม่คิดว่าตัวเองพิการนะ แม้สายตามองไม่เห็น แต่ก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป ไม่ต่างจากคนอื่น อย่างตอนเด็กผมก็ไปเดินห้าง ไปสวนสนุกกับพ่อแม่ เล่นของเล่นกับน้องชายที่สายตาปกติ เราไปไหนด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน เพียงแต่เวลาทำอะไรที่เป็นการเป็นงาน เช่น เรียนหนังสือ หรือทำงาน ต้องทำมากหน่อย ขยันมากหน่อย อดทนมากหน่อยเท่านั้น”

ครูไอซ์ เป็นคน จ.นครปฐม สมัยเด็กช่วงอนุบาลเรียนหนังสือที่ศูนย์ EI มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เป็นการเตรียมความพร้อมในเรื่องของทักษะการช่วยเหลือตัวเอง และการเรียนรู้อักษรเบรลล์ พอขึ้นประถมศึกษาก็เรียนที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ จนจบ ป.6 แล้วได้รับโอกาสไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล

ดำเกิง มุ่งธัญญา ชีวิตร่ำรวยด้วยมิตรภาพสุดประทับใจ

“ทางเซนต์คาเบรียลจะให้โควตาเรียนฟรีแก่นักเรียนจากโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพปีละ 2 คน รุ่นผม ผมได้ไปคนเดียว เรียนฟรีหมดเลย ตั้งแต่ ม.1-6 ตอนมัธยมปลาย ผมเรียนศิลป์ภาษาเพราะไม่ถนัดวิทย์ ตอนนั้นมีศิลป์ภาษาจีน ก็เรียนภาษาจีน แต่ตอนนี้ภาษาจีนลืมไปเกือบหมดเพราะไม่ได้ใช้

สำหรับภาษาอังกฤษต้องเรียนอยู่แล้ว หลักสูตรที่โรงเรียนสอนเป็นหลักสูตร Intensive English Program (IEP) ทุกวิชาใช้ภาษาอังกฤษหมดเลย ภาษาอังกฤษก็จะดีหน่อย ตอนเรียนครูจะช่วยแปลงเอกสารเป็นอักษรเบรลล์ให้ช่วยให้เรียนสบาย ส่วนการบ้านผมเอากลับไปให้แม่เขียนให้ แค่เขียนอย่างเดียวนะครับ” ครูไอซ์เล่าย้อนสมัยเรียนมัธยม

อย่างไรก็ตาม ช่วงเรียนมัธยมที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลนี้ ครูไอซ์ได้มีโอกาสอธิบายเนื้อหาภาษาอังกฤษให้กับรุ่นน้องหลายคน ที่เดินเข้ามาถามและขอให้ช่วยไขข้อสงสัยและไม่เข้าใจ

ดำเกิง มุ่งธัญญา ชีวิตร่ำรวยด้วยมิตรภาพสุดประทับใจ

“ผมยินดีมาก อธิบายให้น้องๆ ฟังจนเข้าใจ เขาขอบคุณผม คำขอบคุณ ณ ตอนนั้นผมรู้สึกดีมากๆ ปีติ อิ่มเอมใจ และภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเขาได้ แต่เชื่อไหมว่าจุดเล็กๆ นี้เองได้กลายมาเป็นพลัง กลายมาเป็นแรงผลักดันที่กระตุ้นให้ผมฝันอยากเป็นครู ฉะนั้นถ้าถามว่าอยากเป็นครูตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ตอบได้เลยว่าตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียลนั่นเอง ซึ่งผมไม่เคยลืมโรงเรียนแห่งนี้ รวมถึงโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ยังอยู่ในใจเสมอครับ”

ด้วยความที่ชอบภาษาและฝันอยากเป็นครู จึงเลือกเรียนครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งต้องเรียน 5 ปี ปีสุดท้ายฝึกสอน ตอนเรียนค่อนข้างลำบากเพราะไม่ค่อยมีอักษรเบรลล์ให้อ่าน ต้องขอไฟล์จากอาจารย์ใช้โปรแกรมในคอมพิวเตอร์อ่าน การเรียนระดับมหาวิทยาลัยของครูไอซ์จึงต้องขยัน อดทนหลายเท่า แต่ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่เคยถอย ในที่สุด ครูไอซ์สามารถคว้าปริญญาตรีครุศาสตร์ จุฬาฯ สำเร็จแถมพ่วงท้ายด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง

ดำเกิง มุ่งธัญญา ชีวิตร่ำรวยด้วยมิตรภาพสุดประทับใจ

“ช่วงปีสุดท้ายที่ฝึกสอน เทอมแรกผมฝึกสอนที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ เทอม 2 ที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย โรงเรียนที่ 2 นี้ตอนแรกยังไม่รู้จัก เพื่อนแนะนำมา แต่ว่าอยู่ใกล้ที่อยู่ผมที่สุดแล้ว เดินทางสะดวก นั่งบีทีเอสบางหว้ามาลงตากสิน พอมาฝึกสอนจริง ทั้งเด็กนักเรียน ทั้งคุณครูน่ารักมาก ทราบว่าที่นี่มีอัตราว่าง 1 อัตราพอดี พอฝึกสอนจบก็ไปสมัครสอบและสอบได้” ครูไอซ์เล่าถึงสมัยเป็นนักศึกษาฝึกสอน

ความประทับใจที่ไม่เคยลืมในชีวิต

พูดถึงเรื่องราวประทับในชีวิตที่ไม่เคยลืม ครูไอซ์เล่าว่า แม้เป็นคนพิการมองไม่เห็น แต่ชีวิตก็ได้รับแต่สิ่งดีๆ มากมายจากผู้คนในสังคม ทั้งจากเด็กและผู้ใหญ่และจากคนหลากหลายอาชีพ ถือว่าทุกความช่วยเหลือสร้างความประทับใจเสมอ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถมองเห็นหน้าตา รูปพรรณสัณฐานของคนคนนั้น แต่ว่าก็รับรู้ได้ด้วยใจและจำได้ด้วยเสียงตลอดโดยเฉพาะคนที่ให้ความช่วยเหลืออยู่ประจำ

“ตอนสมัยเรียนมัธยมที่เซนต์คาเบรียล ผมมาโรงเรียนและกลับบ้านเอง บ้านอยู่ศาลายา นครปฐม เวลากลับนั่งรถเมล์สาย 515 กระเป๋ารถเมล์ใจดีมาก วันหนึ่งผมนั่งรถกลับบ้าน พอนั่งไปสักระยะก็โทรบอกแม่ให้มารอรับ เพราะใกล้จะถึงบ้านแล้ว พอดีวันนั้นเครือข่ายโทรศัพท์ล่ม ไม่สามารถโทรออกได้ พี่ๆ กระเป๋ารถเมล์ก็ใช้โทรศัพท์เขาช่วยโทรหาแม่ โทรยังไงก็โทรไม่ติด จนในที่สุด มาถึงที่ลงแม่ยืนรออยู่แล้ว

พอมาเรียนปริญญาตรีที่จุฬาฯ ผมก็จะนั่งรถเมล์สาย 542 ไปลงที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล แล้วต่อรถเมล์สาย 515 ไปลงศาลายา ซึ่งทุกครั้งที่นั่งรถสาย 515 พี่ๆ กระเป๋ารถเมล์ ทั้งคนขับจะรู้จักผมอยู่แล้ว ก็คอยช่วยเหลือคอยบริการอยู่ตลอด ถ้ามีเหตุขัดข้องหรือตอนขึ้นลงรถเมล์ก็จะคอยดูแลใจใส่ทุกครั้ง และผมเดินทางด้วยรถเมล์สายนี้ 10 กว่าปี ผมจึงไม่เคยลืมความประทับใจที่ได้รับจากพี่ๆ กระเป๋ารถเมล์สาย 515

ดำเกิง มุ่งธัญญา ชีวิตร่ำรวยด้วยมิตรภาพสุดประทับใจ

เรื่องที่สอง ผมประทับใจในอาจารย์วีณา รัตนสุมาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ซึ่งเป็นหัวหน้าหมวดผมเอง มีวันหนึ่งต้องพรีเซนต์ผลงาน อาจารย์วีณาพูดว่าถึงแม้ครูไอซ์จะพาเด็กไปแข่งขันไม่ได้เหมือนครูท่านอื่นๆ แต่ระหว่างที่ครูท่านอื่นพาเด็กไปแข่งนั้นครูไอซ์ก็จะเข้าช่วยสอนแทนให้ ตรงนี้ผมรู้สึกประทับใจและปลื้มมาก จึงพยายามบอกตัวเองเสมอว่า เราไม่จำเป็นต้องคาดหวังเหมือนคนปกติ แค่เอาจุดที่เราทำได้มาทำให้ดีที่สุดก็พอ

หรืออย่างตอนสอบปลายภาคที่ผ่านมา ผมไม่สามารถคุมสอบนักเรียนได้เหมือนครูท่านอื่น ทางโรงเรียนจึงให้มานั่งประจำ ณ จุดประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน คอยประกาศประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องขยายเสียงให้นักเรียนเตรียมตัวเข้าห้องสอบและตอนหมดเวลาสอบ นี่ก็ถือว่าช่วยได้เหมือนกันแม้จะไม่ได้ช่วยเหมือนที่คนอื่นช่วยก็ตาม

อีกเรื่องหนึ่ง ตอนประเมินครูผู้ช่วยซึ่งจะต้องกรอกข้อมูลในเล่มประเมินลงในเอ็กเซล ผมประทับใจเด็กนักเรียนหลายคน ซึ่งบ้านเขาอยู่แถวโรงเรียน ได้มาอ่านข้อมูลให้ผมฟัง ทั้งที่ช่วงนั้นปิดเทอมเขาจะไปเที่ยวไหนก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะมาช่วย

อีกความประทับใจไม่ลืมคือ วันที่ผมได้รับการบรรจุเป็นครูสอนที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัยเมื่อปี 2559 ได้มีนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ชื่อน้องมาย “ณัฐรดา สิงหเสนี” กำลังจะขึ้นชั้น ม.6 ในปีการศึกษา 2562 น้องณัฐรดาเดินทางมารับผมที่สถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสตากสินในวันแรกของการทำหน้าที่ครูจริงๆ ของผม และไม่ใช่แค่วันนั้นวันเดียว จากวันนั้นเป็นต้นมาเธอก็มารอรับผมที่บีทีเอสตากสินทุกวัน (ยกเว้นวันที่เธอติดธุระมาไม่ได้) เป็นเวลา 2 ปีแล้ว

ดำเกิง มุ่งธัญญา ชีวิตร่ำรวยด้วยมิตรภาพสุดประทับใจ

ผมถามเธอว่า ทำไมถึงเลือกมารับครู เพราะถึงทำตรงนี้ครูก็ไม่มีคะแนนให้ เธอตอบว่า วันนั้นที่มารับครูเป็นวันเกิดของหนูพอดี หนูแค่อยากทำความดีในวันเกิดของตัวเอง หนูนึกได้ว่าครูจะมาสอนวันแรก ก็เลยมารอรับค่ะ ผมฟังแล้วประทับใจ ได้เห็นความความคิดที่ประเสริฐของเขา ได้เห็นจิตใจที่บริสุทธิ์ของเขา ประทับใจมากๆ ชีวิตนี้ไม่ลืมครับ

นอกจากนี้ ยังมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ตรงบีทีเอสตากสิน วินที่อยู่บริเวณประตูทางเข้าสวน มีวินเดียวอยู่ตรงนั้น มีพี่วินคนหนึ่งผมไม่ทราบว่าพี่เขาชื่ออะไร พอวันไหนที่น้องณัฐรดาไม่ได้มารับผม พี่วินคนนี้ก็จะทักทายผมตลอด อาจารย์ น้องไม่ได้มารับเหรอ งั้นอาจารย์นั่งรถผม ผมจะไปส่ง ที่ยิ่งกว่านั้นคือ พี่วินคนนี้ยังบอกพี่วินทุกคนว่าถ้าเห็นผมเดินมาคนเดียวก็ให้ไปส่งที่โรงเรียน เวลาพี่ๆ ไปส่งผมให้เงินค่ารถนะ แต่พี่ๆ เขาไม่เอา ก็เกรงใจพี่ๆ เหมือนกัน” ครูไอซ์เล่าความประทับใจที่ไม่ลืม

ยังมีอีกหนึ่งความประทับใจที่ครูไอซ์รู้สึกซาบซึ้งที่สุดในชีวิต นั่นก็คือ การได้รับพระราชกระแสทรงชมเชยจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ซึ่งอยู่ในกรอบอย่างดี ผู้แทนพระองค์ได้อัญเชิญมามอบให้ถึงโรงเรียน

“ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดไม่ได้ แก่ผมและครอบครัว ผมรู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อยู่เสมอ พระราชกระแสทรงชมเชยของพระองค์ท่าน ทำให้ผมมีกำลังใจมีความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ครูที่ดีิอย่างเต็มที่และตลอดไป” ครูไอซ์กล่าว

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด เบรนท์ฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68