posttoday

ใส่หน้ากากออกกำลังกาย ได้มากกว่าที่คิด

04 กุมภาพันธ์ 2562

ในสถานการณ์เผชิญฝุ่นพิษทั่วโลกแบบนี้ กระทบต่อสุขภาพของเราทั้งทางตรงและทางอ้อม

เรื่อง กั๊ตจัง ภาพ รอยเตอร์ส

ในสถานการณ์เผชิญฝุ่นพิษทั่วโลกแบบนี้ กระทบต่อสุขภาพของเราทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงก็คือการสูดหายใจเข้าไปตรงๆ ส่วนทางอ้อมที่เรากำลังพูดถึงนี้ก็คือการที่เราไม่สามารถออกกำลังกายกลางแจ้งและอินดอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก

ยิ่งมีประกาศให้ประชาชนงดออกกำลังกายกลางแจ้งในวันที่ค่าฝุ่นสูงกว่า 100 ขึ้นไปด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เราขาดโอกาสในการออกกำลังกาย หากวันไหนที่ค่าฝุ่นเพิ่มสูงกว่า 150 แม้จะออกกำลังกายในห้องยิมก็ต้องใส่หน้ากากกันฝุ่น N95 ซึ่งเราต่างรู้ดีว่าเป็นหน้ากากที่หายใจลำบากที่สุด แต่ก็ปลอดภัยที่สุดเช่นกัน แต่รู้ไหมว่าการใส่หน้ากากออกกำลังกายก็มีข้อดีที่ทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงมากขึ้น ซึ่งเราเรียกการออกกำลังกายแบบใส่หน้ากากนี้ว่า เทรนนิ่งมาสก์ หนึ่งในรูปแบบการออกกำลังกายแบบอัลติจูด สำหรับคนที่อยากเพิ่มความอึดให้กับตัวเอง

แนวคิดของการออกกำลังกายแบบ อัลติจูด เทรนนิ่ง ก็คือการฝึกการออกกำลังกายที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,500 เมตรขึ้นไป ยิ่งสูงมากร่างกายยิ่งมีความอดทนในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น นิยมใช้ในหมู่นักกีฬาที่ต้องใช้พละกำลังอย่างหนักและต่อเนื่อง เช่น นักมวย นักวิ่งระยะกลาง นักปั่นจักรยานทางไกลประเภทไต่เขา

ทั้งหมดนี้เริ่มจากการตั้งคำถามที่ว่าทำไมในการแข่งขันกีฬาระดับโลก นักกีฬาที่มาจากประเทศที่มีพื้นที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 2,000 เมตรขึ้นไป ถึงสามารถเอาชนะการแข่งขันกีฬาในหลายประเภทได้ทั้งที่ไม่ได้มาจากประเทศที่มีงบพัฒนาวงการกีฬามากนัก

นักวิทยาศาสตร์จึงค้นคว้าและวิจัยในเรื่องการออกกำลังกายบนที่สูงที่มีออกซิเจนเบาบาง จึงพบความลับในร่างกายมนุษย์อย่างหนึ่งว่า เมื่อเราใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เหนือระดับน้ำทะเลที่ประมาณ 2,500 เมตรขึ้นไป ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือไม่ก็ตาม ตลอด 24 ชั่วโมง ร่างกายจะเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงเพื่อจับออกซิเจนมาเลี้ยงร่างกายให้ได้มากขึ้น

โดยเฉพาะนักกีฬาที่ฝึกฝนอย่างดีจะสามารถเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงได้มากกว่านักกีฬาที่ไม่ได้ออกกำลังกายในแบบเดียวกันถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มความทนทานในการออกกำลังกาย เหนื่อยน้อยลง ทำให้นักกีฬาได้เปรียบในการแข่งขัน

จึงมีคนคิดค้นรูปแบบการออกกำลังกายด้วยการใส่หน้ากาก จำกัดการรับออกซิเจนให้กับร่างกายขึ้นมา หลักการทำงานก็คือทำให้ร่างกายหายใจเอาออกซิเจนได้น้อยลง ดังนั้น เราจะใช้หน้ากากที่ออกแบบมาเฉพาะ หรือจะใช้หน้ากากกันฝุ่นระดับ N95 ก็ได้ผลที่คล้ายกัน

แนวทางในการออกกำลังกายด้วยการใส่หน้ากากนั้น มีสิ่งที่ต้องรู้อย่างแรกนั้นก็คือ ควรใส่ก่อนออกกำลังกายประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวคุ้นชินกับปริมาณออกซิเจนที่ลดลง จากนั้นลดโปรแกรมการฝึกลงอย่างละครึ่ง จากเดิมที่เคยวิ่งเป็นเวลา 45 นาที ให้เหลือ 20 นาที และลดความเร็วในการวิ่งลง ให้อยู่ในระดับที่ไม่หนักจนเกินไป

ทำแบบนี้ในช่วงสัปดาห์แรก จนกว่าจะรู้สึกคุ้นชิน ไม่มีอาการหน้ามืด อึดอัด เหนื่อยหอบ หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ค่อยเพิ่มความหนักในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น

สิ่งที่เราจะได้รับจากการใส่หน้ากากออกกำลังกายคือ เพิ่มความจุดปอด เสริมสร้างความแข็งแรงของกะบังลม เพราะแค่สร้างแรงต้านทานหายใจ แม้จะวิ่งเบาๆ ก็จะเหนื่อยเท่ากับการวิ่งเร็วเกือบเต็มกำลัง ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน แค่ใส่หน้ากากฝึกซ้อม 30 นาที จะเท่ากับออกกำลังกายทั่วไป 1 ชั่วโมง

ช่วยให้ผู้ฝึกมีสมาธิความอดทนในการออกกำลังกายมากขึ้น เพราะความรู้สึกเหนื่อยจนอยากจะเลิกตลอดเวลา บังคับให้มีจังหวะหยุดสูดหายใจลึกขึ้น และจะ
ติดเป็นนิสัยหายใจลึกเป็นจังหวะเวลาถอดหน้ากาก

ดังนั้น คนที่ไม่อยากใส่หน้ากากออกกำลังกายลองมองในแง่บวกแล้วปรับตัวให้คุ้นชิน อย่างไรก็ตาม เราไม่แนะนำให้ใส่ออกกำลังกายในที่โล่ง ควรใส่ออกกำลังกายในยิมในวันที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานเท่านั้น เพราะระหว่างออกกำลังกายหากมีรอยลมรั่วจะยิ่งทำให้เราดูดฝุ่นพิษเข้าสู่ร่างกายอยู่ดี

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68