โลกสวยและงดงาม ในความอัปลักษณ์
ความหมายของการมีชีวิตให้มีคุณค่า ท่ามกลางปัญหาส่วนตัวที่คิดว่ารุมเร้าตัวเอง
โดย เพรงเทพ
ความหมายของการมีชีวิตให้มีคุณค่า ท่ามกลางปัญหาส่วนตัวที่คิดว่ารุมเร้าตัวเอง นอกจากครอบครัวและคนรอบข้างที่จะต้องเป็นกำลังใจกันและกัน ในการเดินฝ่าข้ามไปสู่มิติและระดับใหม่ของการใช้ชีวิตให้ได้ ความเข้าใจกันและคนพร้อมเกาะแขนจูงมือเดินเกาะกลุ่มไปด้วยกันจนถึงฝั่งฝัน และบรรลุไปข้างหน้าเรื่อยๆ นั้นเป็นสิ่งสำคัญ
“Wonder” เป็นภาพยนตร์โลกสวยที่ให้ความรู้สึกดีๆ ของความร่วมมือร่วมใจในสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา และชุมชน ที่งดงามในความรันทด ทำให้ความอัปลักษณ์กลายเป็นสิ่งสวยงาม และเป็นสัญลักษณ์เชิงอุดมคติในสังคมที่ต่างคนต่างอยู่และแก่งแย่งทำร้ายทำลายกัน
นี่คือภาพสะท้อนสังคมอเมริกันที่ดีที่สุดในสภาวะปัจจุบันเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ภาพยนตร์ได้นำเสนอประเด็น “ต่อต้านการรังแกกัน” (Anti-Bullying) ได้ออกมาดีมากๆ
บูลลี่ (Bully) แปลว่า อันธพาลเกเร ที่ชอบแกล้งคนที่อ่อนแอกว่า ส่วนมากจะใช้ในบริบทเด็กๆ ในโรงเรียน โดยเฉพาะเด็กเรียนหรือเด็กเนิร์ด (Nerd) แว่นหนาๆ รวมถึงเด็กขี้แพ้ (Loser) หรือพวกเด็กที่ทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง เพื่อนก็ไม่คบ เฉิ่มๆ เห่ยๆ ก็จะถูกแกล้งอยู่เสมอ
เด็กรุ่นราวคราวเดียวกันหรือรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียนที่มีการรังแกกัน และเกิดขึ้นมากในอเมริกาและญี่ปุ่น กลายเป็นปัญหาในระดับรากฐานของโรงเรียนในชุมชน ทำให้อัตราการฆ่าตัวตายของเด็กที่ถูกรังควานและรังแกในโรงเรียนญี่ปุ่นอยู่ในอัตราที่สูง ส่วนในอเมริกา เด็กที่อยู่ในความคับแค้นลักษณะเดียวกันจะนำปืนมากราดยิงเพื่อนๆ และครูอาจารย์ในโรงเรียน ก่อนที่จะฆ่าตัวตาย
“Wonder” ได้นำลักษณะรังควานรังแกในเชิงการคุกคามเชิงสัมพันธภาพ (Relational Aggression) และการข่มขู่ด้วยวาจา (Verbal Bullying) มานำเสนอผ่านมุมมองและความรู้สึกดีๆ ของการแปรเปลี่ยนและต่อสู้เพื่อก้าวผ่านนามมิตรภาพ ซึ่งเป็นอีกด้านที่ตีกลับจากด้านมืดสู่ด้านสว่างดีงาม
เรื่องราวของอ๊อกกี้ หรือ ออกัสต์ พูลล์แมน ซึ่งเป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมโรคกลุ่มอาการเทรชเชอร์ คอลลินส์ (Treacher Collins Syndrome) ตั้งแต่คลอดลืมตาดูโลก เขาผ่านการผ่าตัดมากว่า 27 ครั้ง ทำให้มีใบหน้าแปลกประหลาดกว่าคนปกติ
เขาเรียนแบบโฮมสกูล คือเรียนหนังสือที่บ้านโดยมี อิซาเบล ผู้เป็นแม่เป็นครูสอนจนอายุได้ 10 ขวบ จึงตัดสินใจครั้งสำคัญให้เขาเข้าโรงเรียนประถมศึกษา เกรด 5 เพื่อออกไปพบปะกับผู้คน เพื่อนฝูง และโลกกว้าง สร้างสัมพันธภาพและมีภูมิต้านทานของชีวิตให้มากขึ้น โดยมีพ่อและพี่สาวคอยสนับสนุนเป็นกำลังใจอย่างเกาะติด
หมวกนักบินอวกาศ เปรียบเสมือนจักรวาลของตัวเองยามที่ตัวเอกในเรื่องเดินออกสู่นอกรั้วบ้านไปสู่สังคมที่เป็นโรงเรียน ก่อนที่จะถูกถอดออกมาเมื่อเข้าสู่โรงเรียน
ว่าไปแล้วกลุ่มอาการเทรชเชอร์ คอลลินส์ เป็นโรคทางพันธุกรรมชนิดหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยมีความผิดปกติของใบหู ตา กระดูกโหนกแก้ม และคาง โดยอาจมีความรุนแรงแตกต่างกันได้มาก ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ความผิดปกติในการหายใจ การมองเห็น เพดานปากโหว่ และการได้ยินผิดปกติ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีสติปัญญาเทียบเท่าคนปกติ
แน่นอน ความอัปลักษณ์และน่าสงสารของตัวละครเอกซึ่งเป็นเด็กวัย 10 ขวบในเรื่อง เป็นจุดศูนย์กลางทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้พุ่งเป้าตรงไปครอบรวมทั้งหมด 100%
ยังมีการเล่าสลับผ่านความรู้สึกนึกคิดของ เวีย ซึ่งเป็นพี่สาวของเขา ที่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายในช่วงผ่านวัยจากก่อนวัยรุ่นไปสู่วัยรุ่นเต็มตัว รวมถึงเพื่อนสนิทที่ชื่อ แจ๊ค วิลล์ ที่มีพัฒนาการร่วมกัน พร้อมกับซัมเมอร์ เด็กหญิงผิวสีอีกคน
แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกไปในทางสูตรสำเร็จโลกสวย มีจังหวะจะโคนการเล่าเรื่องและสร้างอารมณ์เพื่อให้ถึงตอนท้ายเรื่องพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดของความปลื้มปีติแบบอเมริกันจ๋า ออกจะเลี่ยนๆ อยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เพราะการนำเอานวนิยายชื่อเรื่องเดียวกันของ อาร์.เจ.ปาลาซิโอ ซึ่งท็อปฮิตของคนอ่านติดอันดับขายดีกว่า 5 ล้านเล่ม มาตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งผู้คนที่อ่านแล้วย่อมมีตัวละครแต่ละตัวอยู่ในหัวเป็นของตัวเอง
การตีความเป็นภาพเคลื่อนไหวและคัดเลือกดารามารับบทตัวละครแต่ละตัวจึงยากมาก แต่สามารถทำได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะตัวเอก และแม่ที่รับบทโดย จูเลีย โรเบิร์ตส ดารารุ่นเก่าที่ออกมารับงานในรอบ 5 ปี เล่นได้ดีมาก พลังจากสองตัวละครแม่ลูกเป็นแกนกลางในการดำเนินเรื่อง เคียงข้างตัวละครประกอบอื่นๆ ที่สมบูรณ์ในตัวเอง จึงทำให้กลายเป็นภาพยนตร์โลกสวยรู้สึกดีและมีความหวังในความแตกต่างของผู้คน


