posttoday

การต่อยอดที่มีความหมาย นวพร สันติวัฒนา

10 เมษายน 2561

การต่อยอดที่มีความหมายและมีความสุขด้วย คือตัวตนของ นวพร สันติวัฒนา ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท น้ำมันบริโภคไทย กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง

เรื่อง วันพรรษา อภิรัฐนานนท์  ภาพ อมรเทพ โชติเฉลิมพงษ์

การต่อยอดที่มีความหมายและมีความสุขด้วย คือตัวตนของ นวพร สันติวัฒนา ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท น้ำมันบริโภคไทย กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันรำข้าวรายใหญ่ของไทยและในระดับโลก ไปคุยกับเธอในวันที่อาหารเพื่อสุขภาพคือเทรนด์ของโลก ได้พบว่าเธอกำลังโฟกัสที่งานและความสุข

นวพรในวัย 37 ปี กำลังมุ่งมั่นทำในบางสิ่ง สิ่งนั้นมีความหมายสำหรับเธอและครอบครัว โดยเฉพาะบิดา ปราโมทย์ สันติวัฒนา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำมันบริโภคไทย กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง ผู้ทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อธุรกิจและครอบครัว มาถึงรุ่นของนวพร เธออยากทำให้ได้เหมือนพ่อ ผู้ซึ่งเป็นต้นแบบในทุกด้าน ขณะเดียวกันก็ต่อยอดขยายผลองค์กรให้เติบโต

“การได้เห็นคุณลุง ประสพ สันติวัฒนา ผู้ก่อตั้งกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง รวมทั้งคุณพ่อ ที่ทำงานอย่างหนักมาตลอดเพื่อองค์กรนี้ เราต้องสานต่อให้ได้ นี่คือโจทย์ที่ต้องสานต่อไป”

พันธกิจเดินหน้ากลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง สำหรับนวพรแล้ว เดิมพันจึงไม่ใช่แค่ความสำเร็จทางธุรกิจ แต่หมายถึงความสุขในใจของบิดา ที่ปัจจุบันอายุ 64 ปีแล้ว หากยังคงทำงานในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำมันบริโภคไทย กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง ผู้ที่อาจกล่าวได้ทุ่มเทที่สุดคนหนึ่งในการทำให้กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิงเดินทางมาถึงจุดนี้

นวพรเล่าถึงตัวเองว่า เป็นเด็กกิจกรรม ชอบและสนุกกับการทำกิจกรรมมหาวิทยาลัย เธอจบปริญญาตรีด้านบัญชี ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ทำงานด้านบัญชีแต่ในระยะเวลาสั้นๆ  จากนั้นจึงไปเรียนต่อด้านการตลาด ที่มหาวิทยาลัยพอร์ทสมัธ (University of Portsmouth) ประเทศอังกฤษ

การต่อยอดที่มีความหมาย นวพร สันติวัฒนา

จบแล้วกลับมานับหนึ่งที่ฝ่ายต่างประเทศ บริษัทในเครือกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง ได้ทำงานด้านภาษา ขณะเดียวกันก็ได้มีโอกาสเรียนรู้งานส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะด้านการตลาด ซึ่งตรงกับที่เรียนมาและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ความชอบส่วนตัว จึงขอย้ายมาทำงานการตลาดจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 6-7 ปีแล้ว

“เริ่มจากงานที่ทุกคนทำ ก็ทำหมดนะคะ ตั้งแต่ยกลังน้ำมันออกบูธ ทำวิจัยผู้บริโภค จัดกิจกรรมการตลาด หรืองานออกแบบ เรียกได้ว่าได้ทำเกือบทั้งหมด เรียนรู้เยอะค่ะช่วงนั้น”

ไม่เกี่ยงงานและทำทุกงาน สั่งลูกน้องทำ ตัวเองก็ทำด้วย ถือคติว่าเป้าหมายตั้งไว้เพื่อความสุข เป้าหมายไม่ได้ถูกปรับ แต่สิ่งที่ปรับคือแผนหรือรายละเอียดของการเดินทาง  สาวนักบริหารคนเก่งใช้หลักยืดหยุ่น เพื่อให้ทุกคนที่ร่วมเดิน ได้เดินไปด้วยกัน ทำงานและมีความสุขไปด้วยกัน

นวพรเล่าถึงตัวเองว่า เธอเป็นคนประเภทสุขนิยม เป็นนักสุขนิยมที่นิยมความสุขและทำงานด้วยความสุข รวมทั้งคนรอบข้างก็ต้องมีความสุขด้วย หนทางที่ไปไม่ต้องนับหนึ่งสองสามทำตามลำดับขั้นตอน หากแผนงานปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม เพื่อทีมงานทุกคน ได้มีความสุขกับการทำงาน

“ไม่ปรับเป้าหมาย แต่ก็ไม่ตะบี้ตะบัน แผนงานอาจปรับได้บ้าง แต่เป้าหมายตั้งแล้วไม่เปลี่ยนแปลง มีแต่จะเดินหน้าไปให้ถึง”

ปัจจุบันเป้าหมายใหญ่ของกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง คือการทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้จักสินค้าอย่างแท้จริง รู้คุณประโยชน์ และรู้ถึงความทุ่มเทในการตั้งใจผลิตน้ำมันรำข้าวเพื่อสุขภาพที่ดีกว่า การตลาดใช้นโยบายเดินหน้ารณรงค์แคมเปญ “รู้จริง เลือกคิง” ซึ่งเริ่มมาเป็นปีที่ 2 นำเสนอธีม “ห้องคิง ห้องของคนรู้จริง” เพื่อตอกย้ำความมั่นใจในคุณภาพและคุณประโยชน์ผลิตภัณฑ์ (FB : King Health Society)

การต่อยอดที่มีความหมาย นวพร สันติวัฒนา

“คิงพยายามสื่อสาร เรากล้าพูดในสิ่งที่พูด เราเน้นข้อมูลที่มีงานวิจัยรองรับ เพราะเชื่อว่าผู้บริโภคเมื่อได้รับข้อมูลครบถ้วน เขาจะตัดสินได้ เขาจะเลือกได้”

สื่อสารข้อมูลออกไปให้ถึงตัวผู้บริโภคจริงๆ  และส่งต่อสิ่งที่ดีต่อสุขภาพให้แก่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง นวพรบอกว่า ท้ายที่สุดแล้วคือพลังที่กลับมาสู่ตัวของกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิงเอง เมื่อรู้ว่าทำสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ส่งผลกระทบต่อผู้คนและสังคมในระยะยาว นั่นทำให้มีพลังที่จะบอกต่อเรื่องราวดีๆ

“ยิ่งผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นพลังกลับมาที่เราอีก”

อนาคตของกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง มองต่อยอดถึงการขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะการแตกสายผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร นอกเหนือจากน้ำมันรำข้าวพรีเมียม (Premium Cooking Oil) กลุ่มบริษัทยังได้เพิ่มสายการผลิตชอร์ตเทนนิ่งน้ำมันรำข้าว ผลิตภัณฑ์สามารถใช้ทดแทนเนยสดหรือชอร์ตเทนนิ่งทั่วไปในการทำเบเกอรี่และไอศกรีมเพื่อสุขภาพ เนื่องจากไม่มีคอเลสเตอรอลนั่นเอง

นอกจากนี้ ยังมีคอฟฟี่ครีมเมอร์ ครีมเทียมที่สกัดจากน้ำมันรำข้าว อุดมด้วยสารสกัดจากน้ำมันรำข้าวเสริมไฟเบอร์ ทั้งชอร์ตเทนนิ่งและคอมฟี่ครีมเมอร์ ทั้งสองตัวได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่นจากมูลนิธิข้าวไทย รวมทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการค้นคว้าวิจัยในผลิตภัณฑ์อีกหลายตัว ทั้งหมดคือความภูมิใจของกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง

ยิ่งไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์รำข้าวทั้งหมดของกลุ่มบริษัท  ต้องบอกว่าสกัดมาจากข้าวไทย 100% นวพรเล่าว่า ข้าวไทยเป็นข้าวคุณภาพ นั่นทำให้ภูมิใจ เพราะอย่างน้อยก็มีส่วนได้ช่วยชุมชน ได้ช่วยชาวนา เมื่อก่อนรำข้าวราคากิโลกรัมละไม่กี่บาท ถูกแสนถูก หลายคนนำรำข้าวไปเลี้ยงหมู ได้ชื่อเป็นอาหารหมู แต่ปัจจุบันราคารำข้าวเป็นคนละเรื่องกับในอดีต

การต่อยอดที่มีความหมาย นวพร สันติวัฒนา

“พ่อ” อีกคนที่ทำให้ “การต่อยอด” มี “ความหมาย” พ่ออีกคนที่ทำให้การต่อยอดไปไกลกว่าการประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ก็คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งนวพรและครอบครัวให้ความเคารพเทิดทูนสูงสุด เดินตามรอยพ่อ ทำให้แผ่นดิน

ในช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกที่สุดของประชาชนไทยทั้งประเทศ นวพรเล่าย้อนไปว่า ท่ามกลางความมืดมิด เธอคิดว่าอยากจะทำอะไรเพื่อพ่อ ได้มีโอกาสชมรายการโทรทัศน์เทิดพระเกียรติ ซึ่งในครั้งนั้น “อาจารย์ยักษ์” หรือ วิวัฒน์ ศัลยกำธร อดีตประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ แห่งศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จ.ชลบุรี ปัจจุบันคือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวความตอนหนึ่งว่า ทุกคนรักพ่อ แต่ไม่มีใครทำตามที่พ่อทำ

“ก็ได้ไอเดียว่า เราอยากสนับสนุนคนที่ต้องการเดินตามรอยพ่อ ได้หาโอกาสตามไปถึงที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง เพื่อบอกกล่าวความตั้งใจว่าอยากมอบทุนแก่ชาวนาเพื่อใช้ศาสตร์พระราชาในการพลิกฟื้นที่อยู่ที่กิน แต่อาจารย์ยักษ์ปฏิเสธว่าไม่”

ในครั้งแรกอาจารย์ยักษ์ได้ตอบปฏิเสธว่าไม่ได้ ให้เงินอย่างเดียวไม่ได้ คนให้เงินก็ต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการขับเคลื่อนตามหลักเศรษฐกิจปรัชญาพอเพียงและการนำหลักกสิกรรมธรรมชาติมาใช้ด้วย ตกลงว่าผู้บริหารของบริษัท น้ำมันบริโภคไทยหลายคนปีนั้นต้องไปเข้าค่ายอบรม หัดทำนาทำสวน และทำอะไรต่อมิอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต

ถือโอกาสครบรอบ 40 ปีของการดำเนินธุรกิจกลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง ได้จัดทำโครงการสนับสนุนคนไทยร่วมเดินบนเส้นทางแห่งความดีงามตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกิดเป็น “ทุนพอเพียง” 3 ประเภท คือ 1.ทุนความรู้ สนับสนุนการเรียนรู้ศาสตร์พระราชา 2.ทุนเครือข่าย ช่วยเหลือ แลกเปลี่ยน แบ่งปันในกลุ่มผู้เข้าอบรมศาสตร์พระราชา และ 3.ทุนเงิน จัดสรรให้กับพื้นที่ตัวอย่าง เพื่อพัฒนาตามแนวคิดศาสตร์อย่างเหมาะสม

ชีวิตวันนี้มีความสุขกับการเดินตามรอยพ่อ นวพรตบท้ายว่า ชีวิตของเราสั้น เมื่อมีโอกาสต่างๆ เข้ามา ก็จงคว้ามันเอาไว้ ทำด้วยความรัก ทำด้วยความสุข ทำให้เต็มที่ ถึงเวลานั้น พลังจะมาเอง ความทุ่มเทจะมาเอง

ข่าวล่าสุด

กต.ชี้ กัมพูชาปิดด่านห้ามคนไทยกลับประเทศขัดกฎหมายระหว่างประเทศ