บวท. ยกระดับความพร้อมรับปีใหม่ 2569 คาดเที่ยวบินพุ่ง 2.7 หมื่นเที่ยว

บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ประกาศความพร้อมยกระดับการบริหารจัดการน่านฟ้าไทยสู่ยุค Smart Mobility เต็มรูปแบบ รองรับคลื่นการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569

คาดการณ์ยอดเที่ยวบินพุ่งแตะ 27,632 เที่ยวบิน งัดกลยุทธ์ Air Traffic Flow Management บริหารความคล่องตัวแบบเรียลไทม์ เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและปลอดภัยสูงสุด
 

นายสุรชัย หนูพรหม รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. เปิดเผยถึงแผนการบริหารจัดการจราจรทางอากาศในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 (ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2568 - 7 มกราคม 2569) ว่า บวท. ได้เตรียมมาตรการเชิงรุกโดยใช้เทคโนโลยีและฐานข้อมูล (Data-Driven) มาวิเคราะห์เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินที่คาดว่าจะสูงถึง 27,632 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 2,763 เที่ยวบิน ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่ต้องการเห็นการเดินทางที่ไร้รอยต่อและมีความปลอดภัยสูงสุด

ขับเคลื่อนด้วย Data: เจาะลึกสถิติการบินเพื่อการวางแผน

จากการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data ด้านการบิน พบว่าแนวโน้มการเติบโตของเที่ยวบินกลับมาคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2568 ประเทศไทยมีปริมาณเที่ยวบินรวมกว่า 904,796 เที่ยวบิน และในช่วง Winter Schedule เดือนธันวาคม 2568 มีจำนวน 84,543 เที่ยวบิน ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคม 2569 ที่คาดว่าจะขยับขึ้นเป็น 87,835 เที่ยวบิน

นอกจากนี้ บวท. ยังได้พยากรณ์ข้อมูลล่วงหน้าสำหรับปีงบประมาณ 2569 (ก.ย. 68 - ต.ค. 69) คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมถึง 928,165 เที่ยวบิน (เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า) แบ่งเป็น

• เที่ยวบินระหว่างประเทศ: 473,364 เที่ยวบิน
• เที่ยวบินภายในประเทศ: 343,422 เที่ยวบิน
• เที่ยวบินผ่านน่านฟ้า: 111,379 เที่ยวบิน

Smart Operations: เทคโนโลยีบริหารความคล่องตัว

เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปตามแนวคิด Smart City & Smart Mobility บวท. ได้วางระบบการทำงานแบบบูรณาการ ดังนี้:

Air Traffic Flow Management (ATFM): การใช้ระบบบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ เพื่อลดความหนาแน่นและความล่าช้า (Delay) โดยทำงานประสานกับหน่วยงานการบินทั้งในและต่างประเทศ

Real-Time Assessment: การประเมินสถานการณ์และแนวโน้มสภาพการจราจรทางอากาศรวมถึงสภาพแวดล้อมล่วงหน้า เพื่อวางแผนจัดการจราจรให้ลื่นไหลที่สุด

Seamless Integration: การประสานข้อมูลกับท่าอากาศยานทุกแห่งอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารจัดการทรัพยากร (ทางวิ่ง, ทางขับ, หลุมจอด) ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Efficiency Maximization)

24/7 Intelligent Support: การเตรียมความพร้อมของวิศวกรและเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบรายงานผลการปฏิบัติงานรายวันเพื่อปรับแผนหน้างานได้ทันท่วงที

การยกระดับประสิทธิภาพในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่สายการบินและผู้โดยสาร แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นฮับการบินที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล และพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่ทันสมัย